สาวไทยไอเดียเจ๋ง!  แจ้งเกิดบนเวทีศิลปะระดับโลก

      ปานพรรณ ยอดมณี แจ้งเกิดในวงการศิลปะจากการคว้ารางวัลชนะเลิศในเวที “จิตรกรรม บัวหลวง” ติดต่อกันหลายปี กระทั่งประสบความสำเร็จในเวทีสุดยิ่งใหญ่ของภูมิภาคอาเซียน เมื่อศิลปินสาววัย 29 ปีผู้นี้คว้ารางวัลใหญ่ “11th Benesse Prize” จากผลงานอาฟเตอร์แมธ ซึ่งคัดเลือกจากศิลปินและคณะศิลปินจำนวน 63 ราย จาก 19 ประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออก และเอเชียใต้ ในเทศกาลศิลปะร่วมสมัย“สิงคโปร์ เบียนนาเล 2016” หนึ่งในเทศกาลสำคัญระดับโลกที่จัดขึ้นทุก 2 ปี เช่นเดียวกับงานเวนิซ เบียนนาเล อันโด่งดัง

 

ปานพรรณ ยอดมณี และผลงาน

     เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิบัวหลวง ผู้จัดการประกวด “จิตรกรรมบัวหลวง” เวทีส่งเสริมศิลปินที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์งานศิลปะอันโดดเด่นงดงาม เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ได้จัดงาน “จากศิลปินรางวัลจิตรกรรมบัวหลวง  สู่รางวัล Benesse Prize โดย ปานพรรณ ยอดมณี” ขึ้นเพื่อจัดแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะชิ้นเอก และผลงานศิลปะชิ้นใหม่ล่าสุดที่น่าจับตามองของปานพรรณศิลปินคลื่นลูกใหม่ของวงการศิลปะไทย ที่สามารถคว้ารางวัลเบนเนสส์ ไพรซ์มาได้ ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช กรรมการมูลนิธิบัวหลวง, ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ กรรมการตัดสินจิตรกรรมบัวหลวง พร้อมด้วยแขกรับเชิญพิเศษศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติและกรรมการตัดสินจิตรกรรมบัวหลวง และเจ้าของผลงาน ปานพรรณ ยอดมณี มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับจากเวทีการประกวดงานศิลปะที่สุดยิ่งใหญ่ พร้อมพูดคุยถึงเส้นทางชีวิตศิลปินที่กว่าจะได้แจ้งเกิดบนถนนสายศิลปะในเวทีระดับนานาชาติ

ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์-คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช

     คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช กล่าวว่า ปานพรรณเป็นหนึ่งในศิลปินที่นำความภาคภูมิใจมาสู่เวทีจิตรกรรมบัวหลวง ผลงานของเธอได้รับรางวัลใหญ่จากเทศกาลศิลปะร่วมสมัยสิงคโปร์ เบียนนาเล 2016  มีความสามารถในการนำเสนอผลงานจิตรกรรมไทยที่หลายคนมองว่าเป็นงานประเพณีที่เก่าคร่ำครึ ยากจะเข้าใจ ให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าใจในความเป็นไทยได้ โดยนำศิลปะของไทยมาตีความใหม่ และประยุกต์ให้มีเสน่ห์ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแบบของตัวเองจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ให้วงการศิลปะไทยอย่างมาก     

       ด้านเจ้าของนิทรรศการ ปานพรรณ เล่าว่า เริ่มสนใจงานศิลปะมาตั้งแต่ชั้นประถม โดยมีครูศิลปะคนแรกคือ เจ้าอาวาสวัดกะเปียด ซึ่งเรียนจบด้านศิลปะจากวิทยาลัยเพาะช่าง พอถึงช่วงปิดเทอม เด็กๆ ในหมู่บ้านก็จะไปเรียนศิลปะกับพระอาจารย์ ตอนอายุ 11-12 ปี ตัวเองก็เริ่มวาดลายไทย ปั้นลาย เขียนจิตรกรรมฝาผนังวัด พระอาจารย์ก็เห็นแววว่ามีฝีมือจึงมอบหมายให้ทำเป็นระยะๆ จึงทำให้ซึมซับแนวทางศิลปะไทย 

     "พอรู้ว่าตัวเองชอบงานศิลปะก็ตั้งใจศึกษา สร้างผลงานและพยายามค้นหาสไตล์ของตัวเองมาตลอด มีการประกวดที่ไหนต้องลงแข่งเสมอ จนเข้าเรียนสาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงได้ค้นพบการทำงานด้วยเทคนิคสื่อผสม ซึ่งนำความถนัด หลายๆ อย่างของตัวเองและการสังเกตการณ์ต่างๆ มาสร้างสรรค์ผลงาน วัสดุและเทคนิคที่ใช้มีทั้งงานปูน และการใช้วัสดุธรรมชาติ อย่างก้อนหินจากเหมืองแร่วุลแฟรมที่เก็บมาจากบ้านเกิด โดยนำมาสร้างงานที่มีคุณค่าและมีความหมาย ผสมผสานกับจิตรกรรมฝาผนัง ทำให้ผลงานมีเอกลักษณ์แปลกแตกต่างจากคนอื่น ซึ่งรางวัลต่างๆ ที่ได้รับก็เปรียบเหมือนผลพลอยได้จากการได้ทำในสิ่งที่รักและมีคนชื่นชม” ศิลปินสาวเผย 

     ร่วมชื่นชมผลงานจากพลังสร้างสรรค์ของศิลปินยุคใหม่ ได้ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ถ.ราชดำเนินกลาง ตั้งแต่วันนี้-27 เมษายน