Lifestyle

โบสถ์สูงลอยฟ้า วัดโกรกกราก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บรรยากาศงานวัดแบบดั้งเดิม "วันแซยิดหลวงพ่อปู่”

“๓๐๐ ล้านบาท” เป็นมูลค่าโดยประมาณในการก่อสร้างโบสถ์ วัดโกรกกราก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีพระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ หรือพระมหาสัมฤทธิ์ วิสุทฺธสีโล) เจ้าคณะตำบลโกรกกรากเป็นเจ้าอาวาส

วัดโกรกกราก สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๓๗๕ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๓ ตรงกับกาลสมัยของรัชกาลที่ ๒ ปัจจุบันมีเนื้อที่ประมาณ ๑๘๙ ไร่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน โดยมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ใส่แว่นตา เนื้อศิลาแลง สมัยสุโขทัย ซึ่งประชาชนทั่วไปเรียกท่านว่า “หลวงพ่อปู่”

ส่วนสาเหตุที่ต้องใส่แว่นดำนั้น เนื่องจากครั้งหนึ่งได้เกิดโรคตาแดงระบาดไปทั่วบ้านโกรกกราก การแพทย์ยังไม่เจริญ รักษากันตามมีตามเกิดแต่ก็ไม่หาย ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาองค์พระศิลาแลงกันมานาน จึงพากันมาบนบานศาลกล่าว ถ้าตาหายเจ็บหายแดง จะนำแผ่นทองมาปิดที่ดวงตาขององค์พระศิลาแลง ผลปรากฏว่าตาหายแดงกันทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงนำแผ่นทองมาปิดที่ตาขององค์พระศิลาแลงเต็มไปหมด

สำหรับเหตุผลในการสร้างโบสถ์สูงลอยฟ้านั้น พระมหาสัมฤทธิ์ เล่าให้ฟังว่า โบสถ์เดิม ซึ่งโบสถ์เก่าที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อปู่ ที่ชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความเคารพนับถือ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคูเมืองของสมุทรสาคร โดยเฉพาะชาวประมงที่จะออกหาปลาต้องจุดประทัดถวายหลวงพ่อปู่เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางทุกๆครั้ง

การสร้างโบสถ์ครั้งแรกคิดว่าน่าจะสร้างให้สูงหน่อย เพราะพื้นที่บริเวณวัดน้ำท้วม และพื้นดินจะทรุดทุกปีปีละไม่ต่ำกว่า ๒-๓ ซม. ในขณะที่น้ำทะเลก็หนุนสูงของ ๒-๓ ซม.เช่นกัน พอดีญาติโยมหลายท่านที่เดินทางมากราบไหว้พระพุทธรูปหลวงพ่อปู่ มาเล่าให้ฟังว่าฝันว่าได้เข้ามากราบหลวงพ่อปู่ที่อยู่ในโบสถ์สูงลอยอยู่บนท้องฟ้า เราก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะว่ามีญาติโยมหลายคนที่พูดในทำนองเดียวกันว่ามากราบหลวงพ่อปู่ ที่มีโบสถ์ลอยอยู่บนท้องฟ้า

ก่อนสร้างโบสถ์ได้ไปเสี่ยงทายหลายหลวงปู่ โดยใช้ไม้เสี่ยงทาย คว่ำหงาย ที่เรียกว่า เส้งโปย หรืออิ้นโปย ถามหลวงพ่อปู่ว่า ถ้าจะสร้างโบสถ์ที่สูงลอยฟ้าจะสร้างได้สำเร็จหรือไม่ โดยโยนโปย เสี่ยงทายถามว่าจะสำเร็จหรือไม่ ถ้าใช่ขอให้โปยคว่ำกับหงาย ปรากฏว่าโปยเสี่ยงทายคว่ำหงาย ทำอยู่ ๓ ครั้ง ซึ่งแสดงว่าสำเร็จ จึงได้ลงมือก่อสร้างโบสถ์สูงลอยฟ้า

ในการออกแบบโบสถ์นั้น พระมหาสัมฤทธิ์ บอกว่ามีลูกศิษย์ที่เป็นสถาปนิกออกแบบ มาออกแบบให้ พอเริ่มลงมือทำก็มีผู้ที่มาบริจาคเงิน ๑๐ ล้านบาท จากนั้นก็มีผู้ที่ศรัทธาเข้ามาบริจาคสมทบอย่างต่อเนื่อง โดยโบสถ์หลังนี้ออกแบบสูงจากพื้นถนนถึงจั่วหลังคาประมาณ ๖๐ กว่าเมตร แต่ถ้าวัดจากพื้นถนนถึงพื้นโบสถ์สูงประมาณ ๒๑ เมตร พื้นที่ด้านข้างโบสถ์ทั้งสองข้างกว้างข้างละ ๑๐๐ เมตร รถสิบล้อ หรือรถพ่วง สามารถวิ่งลอดโบสถ์ได้สบาย

พื้นโบสถ์นั้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ตัวโบสถ์เป็นไม้สักแกะสลักรูปพุทธประวัติ พื้นโบสถ์เป็นไม้มะค่าโมง ความสูงของพื้นโบสถ์จะเห็นทิวทัศน์แม่น้ำท่าจีนยาว เรือเดินทะเลและเรือประมงที่จอดเทียบท่าและเป็นชุมชนวิถีชีวิตของชาวมหาชัยและฝั่งท่าฉลอม เป็นบรรยากาศมุมสูงที่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอันสงบและพักผ่อนได้อย่างดียิ่ง ในเขตชานเมือง กรุงเทพมหานคร

“ตอนแรกที่ก่อสร้างก็มีคนถามว่าสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่คร่อมถนนได้หรือ เราก็บอบอกว่าสร้างได้ เพราะเราสร้างคร่อมบนที่ดินเดิมของโบสถ์ ซึ่งถนนก็เป็นที่ดินของวัด โดยให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ในการเดินทาง แต่เดี๋ยวนี้ถ้าเราจะย้ายถนนไม่ให้รถลอดใต้โบสถ์ชาวบ้านเขาจะไม่ยอม ก็เพราะบอกได้ลอดโบสถ์ทุกวันเป็นสิริมงคล ปลดทุกข์-ปลดโศก-ปลดโรค-ปลดภัย-ปลดเคราะห์ ห้ามย้ายถนนออกเด็ดขาด” พระมหาสัมฤทธิ์กล่าว

เมื่อถามถึงความคุ้มค่าในการใช้เงินว่า ๓๐๐ ล้านบาท สร้างโบสถ์ พระมหาสัมฤทธิ์พูดไว้อย่างน่าคิดว่า “คนทั่วไปอาจจะมองว่าโบสถ์แห่งนี้เป็นของวัดโกรกกราก แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นโบสถ์ในพระพุทธศาสนา เมื่อมีโอกาสนำคณะศรัทธาชาวพุทธสร้างก็ต้องให้อยู่ได้หลายร้อยปี ในภายภาคหน้าจะเป็นสิ่งที่พุทธศาสนิกชนภูมิใจ เหมือนที่เราภูมิใจในศาสนสถานที่บรรพบุรุษเราสร้างไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อน”

                         โดย  -   ไตรเทพ ไกรงู เรื่อง กฤชนันท์ ธรรมไชย ภาพ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ