สั่งปิด3ห้อง4วันร.ร.เด็ก11ปีติดเชื้อหวัด

 สถานการณ์ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 มิถุนายน นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงได้ขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 อีก 3 คน รวมทั้งหมดเป็น 16 คน ยังไม่มีผู้เสียชีวิต รายที่ 14 เป็นชายอายุ 20 ปี เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาถึงไทยวันที่ 7 มิถุนายน เริ่มมีไข้ ไอ มีน้ำมูก ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ขณะนี้อาการปกติ

 ส่วนรายที่ 15 เป็นชายอายุ 20 ปี กลับจากสหรัฐถึงไทยวันที่ 7 มิถุนายน เริ่มป่วยมีอาการไอ ไปรักษาที่โรงพยาบาลวันที่ 8 มิถุนายน ยังอยู่ในโรงพยาบาล ผู้สัมผัสร่วมบ้านของทั้ง 2 คน อยู่ในการติดตามอาการของกระทรวง ขณะนี้ทุกคนปกติดี แต่ที่น่าเป็นห่วงคือรายที่ 16 เป็นนักเรียนชายโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. อายุ 11 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ โดยวันที่ 6 มิถุนายน เริ่มมีไข้ ไอ ไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตรวจพบไข้สูง แพทย์จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจไข้หวัดใหญ่พบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

 “ประวัติของเด็กรายดังกล่าวทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วได้รีบสอบประวัติคนใกล้ชิดทั้งหมด เบื้องต้นไม่พบว่าคนในครอบครัวเคยมีประวัติต้องเฝ้าระวังโรคนี้มาก่อน ทั้งนี้ยังต้องสืบสวนต่อว่าที่โรงเรียนของเด็กมีผู้ใกล้ชิดที่ป่วยหรือมีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นจะต้องสั่งปิดโรงเรียนแห่งนี้จนกว่าฝ่ายวิชาการจะรายงานว่ามีนักเรียนในโรงเรียนติดเชื้อเพิ่มหรือไม่ จึงจะมีการพิจารณาสั่งปิดโรงเรียนต่อไป” นายวิทยากล่าว

 ด้าน นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบข้อมูลผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่าเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนเอกชนในเขตดุสิต จากการเฝ้าระวังโรคพบว่ามีเพื่อนเด็กคนดังกล่าวเริ่มมีอาการป่วย 13 คน จึงสั่งหยุดเรียน 3 ห้องเรียน พร้อมทั้งให้ครูประจำชั้นโทรศัพท์ติดตามอาการของเด็กที่เฝ้าระวังทั้ง 3 ห้องเรียนอย่างละเอียด และรายงานต่อทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วของกรมควบคุมโรคทุกวัน แต่ไม่ได้สั่งปิดการเรียนการสอนทั้งโรงเรียน

 ส่วน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า การแพร่ระบาดในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง ขณะนี้อยู่ในขั้นที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ แต่เริ่มพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศแล้ว 1 คน และอาจพบเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป มาตรการสำคัญที่ต้องดำเนินการตอนนี้คือ การควบคุมโรคในประเทศ โดยการค้นหาผู้ป่วยอย่างรวดเร็วและจำกัดไม่ให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ได้กำชับให้สถานพยาบาลในสังกัดทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ตรวจคัดกรอง ซักประวัติผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติทุกรายที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัด เพื่อค้นหาผู้ป่วยให้เร็วที่สุด และให้การรักษา เพราะโรคนี้รักษาหาย รวมทั้งสามารถป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดได้

 วันเดียวกัน นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กล่าวถึงกรณีพบนักเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนเอกชนชื่อดังในกทม. ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้จาก สช. ตั้งแต่คืนวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา และได้รับการประสานจากกระทรวงสาธารณสุข และ กทม. ขอให้สั่งให้โรงเรียนเอกชนดังกล่าวปิดห้องเรียนเฉพาะชั้น ป.6 จำนวน 3 ห้องเรียน ซึ่งเป็นห้องที่นักเรียนติดเชื้อเรียนอยู่และห้องข้างเคียงอีก 2 ห้อง ตั้งแต่วันที่ 11-14 มิถุนายนนี้ ส่วนวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นวันจันทร์ หากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติโรงเรียนจะเปิดเรียนตามปกติ รวมทั้งห้องเรียนชั้น ป.6 จำนวน 3 ห้องนี้ด้วย

 "มาตรการป้องกันโรคหวัดนี้สช.และโรงเรียนได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข และกทม.เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะนักเรียนชั้นป.6 จำนวน 3 ห้องเรียนนี้ จะมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หากโรงเรียนพบว่านักเรียนกลุ่มนี้เป็นไข้ให้รีบพาไปพบแพทย์ ส่วนนักเรียนชั้นเรียนอื่นๆ เฝ้าระวังตามมาตรการปกติ" นายบัณฑิตย์กล่าว

เมื่อเวลา 18.00 น. ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชนชื่อดัง แห่งหนึ่งในเขตดุสิต กทม. ได้เรียกประชุมครูในโรงเรียนกว่า 300 คน เป็นกรณีพิเศษ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย(สนอ.) กรุงเทพมหานคร(กทม.)และผู้บริหารของ กทม. รวมทั้งเจ้าเหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ร่วมประชุมชี้แจงและให้ความรู้ เกี่ยวกับการป้องกันตัวเองจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลังพบเด็กชายวัย 11 ปี เป็นผู้ติดเชื้อ "หวัดใหญ่2009" รายที่ 16 ของไทย ทั้งที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ

 ภายหลังการประชุมเครียดกว่า 1 ชั่วโมง พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะกำกับดูแลด้านสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังประชุมว่า ผู้บริหารโรงเรียนได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก กทม. และกระทรวงสาธารณสุข ไปให้ความรู้ครู เพื่ออธิบายให้ผู้ปกครองเข้าใจ ในการป้องกันตัวเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งโรงเรียนได้ให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดอุปกรณ์ในโรงเรียนที่เด็กๆต้องใช้ร่วมกัน เช่น โทรศัพท์สาธารณะ อุปกรณ์การเรียนต่างๆในห้องเรียน โรงอาหาร เป็นต้น โดยจะทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

 พญ.มาลินี กล่าวด้วยว่า ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขและกทม. ได้มีข้อตกลงกันว่า โรงเรียนทุกสังกัดที่อยู่ในพื้นที่ กทม. นั้น จะมอบหมายให้ กทม. เป็นผู้ดูแลเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดรวมทั้งขั้นตอนการรักษาผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุด กทม. ได้ตั้งวอร์รูมในโรงเรียนดังกล่าวแล้ว และในวันที่ 11 มิถุนายน สนอ. จะนำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ อย่างละ 500 ชุด เข้ามามอบให้โรงเรียนดังกล่าวด้วย

 ส่วนที่มีรายงานการติดเชื้อของชาวไต้หวันที่พื้นที่ จ.ชลบุรี รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า มีการส่งตัวอย่างเชื้อส่งตรวจ 1,000 ราย จากการเก็บตัวอย่างเชื้อจากประชาชนที่อยู่ในเส้นทางการท่องเที่ยวเดินทางของกรุ๊ปทัวร์ทั้ง 2 กรุ๊ป พบว่ามี 90 คน ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง เป็นพนักงานโรงแรม 1 แห่ง สถานบันเทิง 1 แห่ง โดยผลการตรวจจะทยอยทราบผล เบื้องต้นทั้ง 90 คน ยังไม่พบว่ามีอาการป่วย แต่ยังอยู่ในการเฝ้าระวังหากมีอาการจะนำเข้าระบบการรักษาทันที ทั้งนี้ ทั่วประเทศไทยยังมีผู้ป่วยเฝ้าระวังโรคในระบบอีก 29 คน

 “ยอมรับว่าขณะนี้แนวป้องกันโรคที่สนามบินสุวรรณภูมิรั่ว เพราะพบว่ามีการติดเชื้อในประเทศไทย โดยเฉพาะกรณีการพบผู้ป่วยไต้หวันที่เดินทางกลับจากไทย ซึ่งกระทรวงไม่มีหน้าที่ปฏิเสธว่าจริงหรือไม่ ขณะนี้เป็นเพียงข้อสงสัยว่าติดเชื้อจากไทยจริงหรือไม่เท่านั้น กระทรวงมีหน้าที่ต้องตอบให้ได้ว่าติดเชื้อจากพัทยาจริงหรือไม่ และต้องควบคุมป้องกันโรคให้ได้ ขณะนี้จะเน้นต้องเฝ้าระวังสถานที่ที่มีโอกาสแพร่เชื้อสูง คือ โรงเรียน โดยจะสั่งการให้ สสจ. (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) ทุกแห่งประชุมสถานศึกษาโดยเฉพาะครูพยาบาล ครูด้านสุขศึกษา และแพทย์ ให้ความเข้าใจในการป้องกันโรคและการรักษาโรคอย่างถูกต้อง” นายวิทยากล่าว

 รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านท่องเที่ยวเกิดความกังวลว่าอาจเกิดผลกระทบและจะไม่มีคนมาเที่ยวเมืองไทย แต่นักท่องเที่ยวที่มาไม่กลัวว่าจะมีเชื้อ แต่กลัวจะถูกกักตัวไม่ได้เที่ยวตามที่ตั้งใจมากกว่า ซึ่งการให้ข้อมูลสถานการณ์ของโรค กระทรวงยืนยันว่าจะให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา แต่ต้องเป็นข้อมูลที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงและความถูกต้องแล้ว โดยข้อมูลทางระบาดวิทยา ระบุว่าผู้ป่วยโรคนี้ร้อยละ 80 หายได้เอง อีกร้อยละ 10 ต้องเข้ารับการรักษา และกระทรวงพร้อมที่จะให้การรักษาประชาชนทุกคนเพราะมียาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์อยู่ 4.2 ล้านเม็ด สำหรับรองรับผู้ป่วย 4.2 แสนคน

 อย่างไรก็ตาม กระทรวงได้ส่งรถปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์เชื้อเคลื่อนที่ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือ โมบายแล็บอีก 1 คัน ไปตั้งที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรีแล้ว เพื่อความรวดเร็วในการตรวจตัวอย่างจากผู้สงสัยติดเชื้อ นอกจากนี้ กำลังพัฒนาระบบการตรวจร่วมกับสถาบันต่างๆ ในเครือข่ายศูนย์ตรวจปฏิบัติการแห่งชาติ ซึ่งจะสามารถตรวจได้จำนวนมากขึ้นและรายงานผลเร็วขึ้น โดยรถโมบายแล็บจะสามารถตรวจตัวอย่างได้ถึง 200 ตัวอย่างต่อวัน

 ผลพวงภายหลังมีข่าวชาวไต้หวันติดไข้หวัดใหญ่ 2009 จากพัทยานั้น นายวีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ปัจจุบันเมืองพัทยามีนักท่องเที่ยวประมาณ 30% แต่เมื่อมีกระแสข่าวว่านักท่องเที่ยวชาวไต้หวันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จึงได้รับการส่งสัญญาณจากทางไต้หวันว่าอาจจะมีกรุ๊ปทัวร์ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาแจ้งยกเลิกการเดินทาง ซึ่งในแต่ละปีจะมีชาวไต้หวันเดินทางมาท่องเที่ยวประมาณ 2 แสนคน ดังนั้น เมืองพัทยาจะทำหนังสือไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ส่งต่อไปยังทางการไต้หวัน เพื่อยืนยันเกี่ยวกับมาตรการในการเฝ้าระวังและควบคุมโรคที่มีมาตรฐานสากล

 นายวีรวัฒน์กล่าวอีกว่า ขณะนี้เมืองพัทยาได้ส่งชุดเก็บเชื้อตัวอย่างจากผู้ป่วยที่ต้องสงสัยอาจจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้ไปยังคลินิกเอกชนทั่วเมืองพัทยา 25 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง โรงพยาบาลรัฐ 3 แห่งและคลินิกสังกัดเมืองพัทยา 1 แห่งสำหรับใช้ในการเก็บเชื้อตัวอย่างเพื่อส่งตรวจยืนยันในห้องปฏิบัติการ ซึ่งมาตรการเหล่านี้สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดประชุมระดับนานาชาติ ที่จะจัดขึ้นที่เมืองพัทยาในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะมีชาวต่างชาติเข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 คน

 “หากมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้ในเมืองพัทยา กลัวที่จะทำให้นักท่องเที่ยวหายเช่นกัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ แม้ขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณยกเลิกการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว แต่กลัวว่าหากยังไม่สามารถทำความชัดเจนให้เกิดขึ้น นักท่องเที่ยวเหล่านี้ก็จะแจ้งยกเลิกการเดินทางด้วย อย่างไรก็ตาม หากผลการตรวจเชื้อยืนยันว่ามีการพบผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่เมืองพัทยาจริง ก็ต้องยอมรับความจริง และต้องหาทางแก้ไขต่อไปไม่ให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นและควบคุมโรคให้ได้เร็วที่สุด ถ้าผลการตรวจออกไปว่าไม่พบผู้ติดเชื้อในเมืองพัทยาทุกอย่างก็จบ จะสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างมาก“ นายวีรวัฒน์กล่าว

 ขณะเดียวกัน นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขฮ่องกงระบุว่าพบชาวฮ่องกงป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 หลังจากเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกงแต่อย่างใด และมั่นใจว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะตามข้อตกลงของกฎบัตรอนามัยนานาชาติ หากพบมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากต่างประเทศ จะต้องรายงานให้ประเทศต้นทางรับทราบ เพื่อดำเนินการสอบสวนโรค และควบคุมโรคทันที จะไม่มีการแถลงข่าวให้สาธารณชนรับทราบก่อน ซึ่งเป็นการดำเนินงานเช่นเดียวกับกรณีที่พบชาวไต้หวันที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 หลังจากมาเที่ยวที่พัทยา จ.ชลบุรี ที่มีการประสานงานระดับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระหว่างประเทศ ก่อนที่จะแถลงข่าวให้สาธารณชนรับทราบ