น่าห่วง "มาเรียม" ป่วย พบติดเชื้อในกระแสเลือด-ปอดอักเสบ หลังถูกพะยูนตัวผู้ไล่จู่โจม ช็อก หัวใจหยุดเต้น
พะยูนน้อยมาเรียมเกิดอาการช็อกหลังถูกพะยูนตัวผู้ไล่จู่โจม ตกใจตัวสั่น ไม่กินนม และเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น สัตวแพทย์ต้องฉีดยากระตุ้น พร้อมย้ายมาอยู่บ่อชั่วคราว เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
จากการที่มาเรียมถูกพะยูนตัวผู้ไล่บริเวณแหลมปันหยังซึ่งเป็นช่วงน้ำลง และช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ทำให้มาเรียมเกิดอาการตกใจจนตัวสั่น (ช็อก) 2 วันที่ผ่านมา มาเรียมไม่กินนม และกินหญ้านิดหน่อย
เมื่อคืนวันที่ 10 เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น สัตวแพทย์ต้องฉีดยากระตุ้นหัวใจทำให้อาการมาเรียมในตอนนี้อยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากนี้ภายใน 2-5 วัน หากอาการดีขึ้นจะนำมาเรียมลำเลียงโดยเฮลิคอปเตอร์จากโรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะและนำส่งศูนย์ชีวะฯ ภูเก็ต ต่อไป ซึ่งในช่วงเวลา 16.00 น. จะนำมาเรียมย้ายมาอยู่บ่อชั่วคราว เพื่อรอดูอาการ
ล่าสุดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อัพเดทอาการป่วยมาเรียม ทุกภาคส่วนประชุมฯ เตรียมพร้อมรักษา "มาเรียม" หลังพบติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดอักเสบ
คณะสัตวแพทย์มาทำการตรวจร่างกายลูกพะยูน (มาเรียม) และทำการประเมินอาการ สรุปได้ว่า มาเรียมมีภาวะป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด
ประวัติอาการป่วย ของ "มาเรียม"
วันที่ 8 สิงหาคม มาเรียมมีอาการซึม และไม่กินอาหาร โดยเฉพาะเวลากลางวันมีการหายใจผิดปกติ เปิดช่องจมูกค้างนาน 5 วินาที ลมหายใจมีกลิ่น ผายลมมีกลิ่นเหม็นมาก
วันที่ 9 สิงหาคม มีอาการตัวสั่น เกร็ง โก่งตัว ลอยบนผิวน้ำ ช่วง 20.00-06.00 ปฏิเสธการกินอาหาร
วันที่ 10 สิงหาคม อาการทรงตัว ในช่วงบ่ายเริ่มว่ายไปกินหญ้าได้บ้างวันที่ 11 สิงหาคม 2562 มีอาการซึมแลอ่อนเพลียมากขึ้น อัตราหายใจ 3-4 ครั้ง มีการเปิดหายใจนานมาก สูงสุดถึง 30 วินาที อัตราการเต้นหัวใจ 140-150 ครั้งต่อนาที เสียงลมหายใจผิดปกติ มีอาการลอยตัวด้านซ้ายแสดงถึงการอักเสบของปอด ลมหายใจมีกลิ่นเหม็นมาก บริเวณผนังท้องมีอาการบวมน้ำ เยื่อเมือกบริเวณในช่องปากพบแผลหลุมเปื่อย 2-3 แห่ง บริเวณแพนหางพบรอยด่างขาว คล้ายการติดเชื้อไวรัส
ผลการวินิจัยเบื้องต้น
1. มีการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดอักเสบ
2. แผลในช่องปากมีผลต่อความอยากกินอาหรา
3. มีไข้
4. อยู่ในสภาพขาดอาหารและน้ำ
แนวทางการรักษา
1. ให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่องอย่างน้อย 2 อาทิตย์
2. เจาะเลือด เพื่อตรวจ
3. เสริมวิตามินและสารน้ำเกลือ หากจำเป็นอาจให้ทางเส้นเลือด
4. ย้ายป้ายแผลในปาก
แนวทางการดำเนินการ
1. ต้องมีการเคลื่อนย้ายมาเรียม มารักษาในบ่อพยาบาล
2. หากมีอาการดีขึ้นและอาการปกติ จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
3. หากมีอาการดีขึ้นแต่ต้องการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด และต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ควรขนย้ายไปยังศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากภูเก็ต
คณะท่านรองอธิบดีกรม ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้เรียกประชุมผู้นำท้องที่ท้องถิ่นเพื่อชี้แจงและรายงานป่วยของมาเรียมให้กับสาธารณะทราบ และมีข้อสรุปร่วมกันให้ดำเนินการ ดังนี้
1. สัตวแพทย์ได้ให้ยาเพื่อทำการรักษาการติดเชื้อไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 ส.ค. และเมื่อมาเรียมมีร่างกายที่พร้อมก็จะทำการเคลื่อนย้ายไปรักษาอาการป่วยที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) โดยวิธีเร่งด่วน คือ เคลื่อนย้ายทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์
2. ทางคณะรองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และทีมสัตวแพทย์ ได้เดินทางไปดูบ่ออนุบาลที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง เพื่อเป็นแผนรองรับการเคลื่อนย้าย หากเห็นว่ามีความเหมาะสมทำการรักษาพยาบาล
3. ในคืนวันที่ 11 ส.ค. ทีมสัตวแพทย์มีความเห็นที่จะนำมาเรียมทำการรักษาในบ่ออนุบาลชั่วคราวที่ติดตั้งไว้ที่หน้าเขาบาตู เพื่อสะดวกในการรักษาพยาบาลมาเรียม
4. ทางคณะท่านรองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ลงความเห็นให้เพิ่มทีมสัตวแพทย์เข้ามาปฏิบัติงานโดยด่วนในช่วง 1 - 3 วันนี้ ก่อนที่ทำการเคลื่อนย้ายมาเรียม และขณะนี้ได้ทีมสัตวแพทย์เพิ่มเติมแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง