ตั้งปมคดี แพรวา ไม่จ่าย เพราะไม่รู้หรือประวิงคดี

สำหรับปัญหาข้อกฎหมายที่ยังมีข้อมูลและข้อเท็จจริงไม่ตรงกันว่า สรุปแล้วคดีแพรวา 9 ศพ จบหรือยัง เพราะมีข่าวจากทางญาติของแพรวาอ้างว่า คดียังไม่จบเสียทีเดียว เนื่องจากยังไม่ได้รับหมายจากศาล ซึ่งเป็น "คำบังคับ" ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา

คดีนี้จำเลยคือฝ่ายของแพรวา ไม่ได้ไปฟังคำพิพากษาศาลแพ่งที่สั่งให้จ่ายชดใช้เหยื่อ ทั้งญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมๆ แล้ว 20 กว่าล้านบาท ซึ่งตามกฎหมายเดิม เมื่อจำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลต้องออก "คำบังคับ" ให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 30 วัน จากนั้นจะมีกระบวนการส่งหมาย หรือ "คำบังคับ" ไปยังแหล่งที่อยู่ของจำเลย ซึ่งขั้นตอนนี้จะกินเวลาอีก 45 วัน ทำให้เสียเวลาและทำให้ผู้เสียหายที่ชนะคดี เสียโอกาสเพราะหลังได้รับคำบังคับ แล้ว ก็ยังมีเวลาอีก 30 วันในการปฏิบัติตาม รวมแล้วถึง 75 วัน คดีเหยื่อรถตู้ 9 ศพที่กำลังเป็นปัญหาอยู่นี้ ฝ่ายของแพรวาอ้างว่ายังไม่ได้รับคำบังคับจึงยังไม่จ่ายชดใช้ แต่ไม่ได้มีเจตนาจะบิดพลิ้วแต่อย่างใด แต่หากฝ่ายแพรวายังไม่ยอมจ่ายชดใช้อีก จึงจะถึงขั้นตอนที่ฝ่ายผู้เสียหายที่ชนะคดี ซึ่งเรียกว่า "เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา" ไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออก "หมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี" เพื่อบังคับแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาและจะต้องมีกระบวนการสืบทรัพย์ว่ามีอยูที่ไหนบ้าง เพื่อยึดอายัดการขายทอดตลาด โดยฝ่ายผู้เสียหายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ป.วิ.แพ่งฯ ได้แก้ไขใหม่แล้ว โดยในคดีแพ่ง หากจำเลยไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล ทั้งๆ ที่ทราบแล้วว่ามีการนัดอ่านคำพิพากษา จะถือว่าจำเลยทราบผลของคำพิพากษาแล้ว จึงจะไม่มีการออกหมายคำบังคับอีก เพื่อลดขั้นตอนและเวลาที่จะต้องเสียไปอีก 75 วัน เมื่อฝ่ายผู้เสียหายที่ชนะคดีรอเวลาระยะหนึ่ง และเห็นว่าฝ่ายจำเลยที่แพ้คดีไม่ยอมจ่ายชดใช้ตามคำพิพากษาแน่ ก็จะไปยื่นคำร้องต่อศาล ขอหมายตั้งเจาพนักงานบังคับคดี เพื่อติดตามยึดอายัดทรัพย์มาขายทอดตลาดต่อไป เหตุนี้เอง จึงกลายเป็นข้อสังเกตว่า สรุปแล้วฝ่ายขอแพรวา เข้าใจผิด จึงรอหมายคำบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา เพื่อจ่ายเงินชดใช้ หรือจงใจประวิงเวลาเพื่อไม่จ่ายค่าชดใช้กันแน่ เนื่องจากปัจจุบันศาลไม่ต้องออกหมายบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้ว