ญี่ปุ่นยืนยันไม่ยกเลิกจำกัดขายสินค้าไฮเทคให้ เกาหลีใต้

ญี่ปุ่นยังคงเมินเสียงเรียกร้องของผู้นำเกาหลีใต้ ยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกมาตรการจำกัดการส่งออกวัตถุดิบสำหรับผลิตสินค้าไฮเทคให้กับเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันก็เริ่มมีรายงานตัวเลขความเสียหายที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบจากมาตรการของญี่ปุ่นแล้ว

โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงว่า มาตรการควบคุมการส่งออกแก่เกาหลีใต้ไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาพูดคุยกันได้และจะไม่ยกเลิกด้วย นอกจากนี้ฮิโรชิเงะ เซโกะ รัฐมนตรีการค้าของญี่ปุ่น ชี้แจงในวันนี้ว่า การตัดสินใจที่เกิดขึ้นเป็นการทบทวนเพื่อหยุดให้สิทธิพิเศษแก่เกาหลีใต้ และกลับไปใช้มาตรการควบคุมการส่งออกกับเกาหลีใต้เหมือนประเทศคู่ค้าอื่นๆ และไม่ได้เป็นการละเมิดข้อบังคับขององค์การการค้าโลกแต่อย่างใดถ้อยแถลงนี้เป็นการปฏิเสธข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์ ที่ขอให้ญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกเคมีภัณฑ์ 3 ชนิดสำหรับผลิตชิพและหน้าจอสมาร์ทโฟนให้กับเกาหลีใต้ โดยมาตรการนี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.และมีผลให้ผู้ผลิตญี่ปุ่นต้องยื่นขออนุญาตทุกครั้งในการส่งออกให้กับบริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ ล่าสุด คัง คยอง-ฮวา รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ตอบกระทู้ในสภานิติบัญญัติว่า เกาหลีใต้เตรียมยื่นร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลกเกี่ยวกับมาตรการทางการค้าล่าสุดของญี่ปุ่น ส่วนซัง ยุน-โม รัฐมนตรีอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของสองประเทศจะจัดการหารือร่วมกันที่กรุงโตเกียวในวันศุกร์นี้ แต่เขาเรียกร้องให้ญี่ปุ่นหยุดกล่าวหาเกาหลีใต้แบบไม่มีมูลความจริงโดยทันที หลังจากสื่อญี่ปุ่นรายงานอ้างสมาชิกอาวุโสภายในพรรครัฐบาลว่า สารเคมีไฮโดรเจนฟลูออไรด์ สารเคมีที่ญี่ปุ่นส่งออกให้เกาหลีใต้ ถูกส่งต่อไปให้เกาหลีเหนือ โดยเคมีภัณฑ์ชนิดนี้ใช้ผลิตอาวุธเคมีได้ และเป็นหนึ่งในสามชนิดที่ญี่ปุ่นเพิ่งจำกัดการส่งออกให้เกาหลีใต้ ขณะเดียวกันเริ่มมีรายงานผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้ว โดยบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้สูญเสียมูลค่าตลาดแล้วเกือบ 16 ล้านล้านวอนตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงเมื่อวันจันทร์ และเอสเค ไฮนิกซ์ สูญเสีย 1.5 ล้านล้านวอน ทั้งสองบริษัทมีกำลังการผลิตชิพรวมกันมากถึง 60% ของทั้งโลก และนักวิเคราะห์คาดว่า อัตราการเติบโตของจีดีพีเกาหลีใต้ในปีนี้อาจลดลงเหลือไม่ถึง 2%