พลังประชารัฐโต้กลับจ่อยื่น 55 ส.ส. 7 พรรคฝ่ายค้าน ปมหุ้นสื่อ

สัปดาห์นี้เป็นห้วงเวลาที่น่าจับตาอย่างยิ่ง กับปมร้อน การครอบครองหุ้นสื่อ ซึ่งขัดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. หลังจากที่พรรคฝ่ายค้านได้ยื่นตรวจสอบ 41 ส.ส.รัฐบาลไปแล้ว วันนี้ถึงคิว พรรคพลังประชารัฐ โต้กลับยืนตรวจสอบ 7พรรคฝ่ายค้าน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่มากกว่าครึ่ง

นายทศพล เพ็งส้ม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายต่อสู้คดีกรณี 27 ส.ส.พรรค พปชร.ถูกร้องถือครองหุ้นและเป็นเจ้าของกิจการสื่อ เปิดเผยว่า การต่อสู้คดีในทางพรรคฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไปก่อนหน้านี้ เพื่อขอให้มีมติคุ้มครองชั่วคราวนั้น เพราะต้องการขอให้ศาลมีการไต่สวนพยานหลักฐาน ก่อนจะรับไว้พิจารณาหรือมีคำสั่งวินิจฉัย ซึ่งศาลอาจจะไม่มีการไต่สวนก็ได้ แต่เราเพียงขอโอกาสชี้แจงส่วนกรณีที่พรรคพปชร.จะยื่นให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อมวลชนของ 7 พรรคฝ่ายค้านนั้น ขณะนี้คได้ส่งรายชื่อที่เข้าข่ายมาแล้วมากกว่า 30 รายชื่อ เพื่อให้ตรวจสอบในรายละเอียด พร้อมจัดทำคำร้องให้ถูกต้อง ไม่ให้ตกม้าตายเหมือนพรรคอนาคตใหม่ ที่ยื่นให้มีการตรวจสอบ ส.ส.พรรค พปชร.ผิดช่องทาง คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า ระหว่างการประชุมสภา จะสามารถยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปมีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ความคืบหน้าการรวบรวมรายชื่อส.ส.ฝั่ง 7พรรคการเมือง ฝ่ายค้าน เพื่อยื่นให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณากรณีถือหุ้นสื่อนั้น จะดำเนินการให้เสร็จในสัปดาห์นี้ ที่ล่าสุดอยู่ที่จำนวน 55 คน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ระบุว่ามี 20-30 คนประกอบด้วย พรรคอนาคตใหม่ มี33คนที่อยู่ในข่าย //พรรคเพื่อไทย 10 คน // พรรคเพื่อชาติ 4 คน พรรคเสรีรวมไทย 4 คน พรรคประชาชาติ 2คน ส่วนของพรรคเศรษฐกิจใหม่และพรรคพลังปวงชนไทย พรรคละ1คนรายงานระบุอีกด้วยว่า จากตรวจสอบพบว่า นอกจาก 33 คนของอนาคตใหม่ที่อยู่ในข่ายนั้น ปรากฎว่ามีอีกประมาณ 10 คน มีการดำเนินการแก้ไขวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการ จึงเป็นเหตุให้ควรเชื่อได้ว่าบุคคลเหล่านี้ถือหุ้นและประกอบกิจการสื่ออย่างชัดเจนหรือไม่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบย้อนหลังต่อไป