โฆษกตร.ขออย่ามองย้าย ส.ต.ต.ทุ่งใหญ่ ทำเกินกว่าเหตุ ขอตรวจสอบ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วอนอย่ามองสั่งย้าย ส.ต.ต.ทุ่งใหญ่ ทำเกินกว่าเหตุ ขอเวลาตรวจสอบ ด้านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เร่งสอบถามข้อเท็จจริง เผยยังไม่ตั้งกรรมการตรวจสอบ

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าหลังมีคลิปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ถึงเหตุการณ์จุดตรวจยูเทิรน์ภูตะวัน หมู่ 2 เขตเทศบาล ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่ตำรวจจะขอตรวจใบขับขี่ชายอ้างตัวเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ไม่ยอมให้ตรวจใบขับขี่ พร้อมบอกเป็นเพื่อนกับผู้กำกับ สภ.ทุ่งใหญ่ ในพื้นที่ จนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ล่าสุด  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้สั่งการไปยัง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ลงไปดูแลอย่างใกลชิด ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วน ส.ต.ต. ที่ถูก สั่งย้ายก่อนหน้านั้น ก็ได้กลับไปทำหน้าที่ตามเดิม พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ผ่านเข้าไปบริเวณที่ตั้งจุดตรวจต้องให้ความร่วมมือตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่อยากให้มองว่า การสั่งย้าย ส.ต.ต.ของผู้กำกับการ ทุ่งใหญ่ เป็นการทำเกินกว่าเหตุ รอให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตรวจสอบก่อน ด้าน พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 สั่งให้พา ส.ต.ต.เข้าไปพบ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่เบื้องต้น ยังไม่ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องรอการพูดคุยวันนี้ว่าทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จะมีความเห็นและมีคำสั่งในเรื่องนี้อย่างไรบ้างอดีตที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปตำรวจ ยังแสดงความกังวลว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดในขณะนี้คือ ตำรวจไม่อยากรับเรื่องร้องทุกข์ให้เป็นคดีความ เพราะเมื่อรับแล้ว ออกเลขคดีแล้ว ต้องสืบสวนสอบสวนวุ่นวาย ต้องทำสำนวนการสอบสวน และหากคดีมีการฟ้องขึ้นสู่ศาล ก็ต้องไปเป็นพยานในชั้นศาลด้วย ทำให้ปัจจุบันมีการรับแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เฉยๆ แต่ไม่ออกเลขคดี ไม่ทำคดี ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน ขณะที่ภาพของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ดูดี เพราะสถิติอาชญากรรมไม่สูงมาก เนื่องจากไม่มีการออกเลขคดีสำหรับช่องทางการทุจริตและเรียกรับผลประโยชน์ของตำรวจบางกลุ่มบางพวกนั้น มีอยู่ 4 ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เรียกว่า "4 สายสูบ" คือ ฝ่ายสืบสวน ส่วนใหญ่เรียกรับเงินจากบ่อนการพนัน และสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลา ฝ่ายปราบปราม เรียกรับเงินจากการติดตั้งตู้แดงตามบ้าน หรือห้างร้านต่างๆ ซึ่งบางโรงพักใช้การติดตั้งตู้แดงเป็นการเรียกรับผลประโยชน์แลกกับการดูแลตรวจตรา ฝ่ายจราจร เป็นการเรียกรับเงินตามท้องถนน หรือบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดมากๆ เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ หรือออกใบสั่งและหวังส่วนแบ่งค่าปรับ และฝ่ายสอบสวน ก็จะเรียกรับผลประโยชน์จากการล้มคดี หรือเคลียร์คดี อย่างคดีของลูกชายบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดังที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่มีการเคลียร์คดี