Program Online

เปิดเงื่อนไขนักโทษเข้าข่ายได้หรือไม่ได้ รับพระราชทานอภัยโทษ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดเงื่อนไขผู้ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ หลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562

เปิดเงื่อนไขผู้ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ หลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562  คลิกอ่าน พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562 ฉบับเต็ม

 

อ่านข่าว : โปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษผู้ต้องราชทัณฑ์

สำหรับผู้ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกานี้ ต้องมีตัวอยู่ในความควบคุมของทางราชการ หรือถูกกักขังไว้ในสถานที่หรือที่อาศัยที่ศาลหรือทางราชการกำหนดในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับติดต่อกันไปจนถึงวันที่ศาลออกหมายสั่งปล่อยหรือลดโทษ หรือนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งปล่อยหรือลดโทษตามที่บัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกานี้ เว้นแต่ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ และผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ  

ทั้งนี้ ผู้ต้องโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป ได้แก่

1.ผู้ต้องกักขัง

2.ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ

3.ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ

โดยกรณีผู้ต้องกักขังซึ่งเป็นนักโทษเด็ดขาดและยังไม่ได้รับโทษกักขังแทนโทษจำคุก หรือยังไม่ได้ถูกกักขังแทนค่าปรับ ให้ผู้ต้องกักขังนั้นได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป

ส่วนนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป คือ

1.ผู้ต้องโทษจำคุก ไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ซึ่งมีโทษจำคุกตามกำหนดโทษที่จะต้องได้รับต่อไปเหลืออยู่ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

2.ผู้มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ได้แก่ เป็นคนพิการทุพพลภาพที่มีลักษณะอันเห็นได้ชัด, เป็นคนเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อน โรคไตวายเรื้อรัง หรือโรคจิตซึ่งทางราชการได้ทำการรักษามาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน 

ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ และแพทย์ตรวจรับรองเป็นเอกฉันท์ว่าไม่สามารถจะรักษาในเรือนจำให้หายได้, เป็นคนเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายหรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์) ระยะสุดท้าย, เป็นหญิงซึ่งต้องโทษจำคุกเป็นครั้งแรก และต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วถึงวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับไม่น้อยกว่า 1 ใน 2 ของโทษตามกำหนดโทษ, เป็นคนมีอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปีบริบูรณ์ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ และมีโทษจำคุกตามกำหนดโทษที่จะต้องได้รับต่อไปเหลืออยู่ไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ หรือเป็นคนมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป, เป็นผู้ต้องโทษจำคุกเป็นครั้งแรก และมีอายุยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ และต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วถึงวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับไม่น้อยกว่า 1 ใน 2 ของโทษตามกำหนดโทษ, เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม และต้องได้รับต่อไปโทษเหลืออยู่ไม่เกิน 2 ปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

 

สำหรับนักโทษเด็ดขาดที่ไม่อยู่ในข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกานี้

1.นักโทษเด็ดขาดที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษประหารชีวิตที่เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว

2.ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเกิน 8 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ภายหลังวันที่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.2559 ใช้บังคับในความผิดฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออก หรือผลิต นำเข้า หรือส่งออกเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ 

กฎหมายว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท, ผู้กระทำความผิดซ้ำ และไม่ใช่นักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม, นักโทษเด็ดขาดชั้นเลวหรือชั้นเลวมาก, นักโทษเด็ดขาดซึ่งต้องโทษในความผิดตามมาตรา 276 วรรคสาม มาตรา 277 มาตรา 277 ทวิ มาตรา 277 ตรี มาตรา 280 มาตรา 285 และมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ส่วนนักโทษเด็ดขาดซึ่งต้องโทษประหารชีวิตให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษลงเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต

นักโทษเด็ดขาดซึ่งจะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว และนักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษ และจะพ้นโทษในคราวเดียวกันตามพระราชกฤษฎีกานี้ จะต้องผ่านหรือเคยผ่านการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตามที่กรมราชทัณฑ์หรือกระทรวงกลาโหมกำหนด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ