คุมตัว 'ไอ้กร' ทำแผน เผยวิธีกระทำแหม่มสาวสุดอุกอาจ

พ.ต.อ.ศักดิ์ระพี เพียวพนิช รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้นำกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสีชัง รวมกว่า 50 นาย คุมตัวนายรณกร ร่มรื่น อายุ 24 ปี พร้อมด้วยของกลางเป็นเสื้อยืดสีดำ อยู่ในสภาพฉีกขาด และมีรอยเลือดติดอยู่ ที่ใช้ในวันก่อเหตุข่มขืนฆาตกรรมอำพรางศพสาวเยอรมัน ที่บริเวณโขดหินทางขึ้นยอดเสาธง พระจุลจอมเกล้า ม.6 ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายรณกร ออกจาก สภ.เกาะสีชัง ก็นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยเริ่มจากจุดแรก ที่บริเวณจุดร้านขายดอกไม้ ซึ่งเป็นจุดที่ นายรณกรและผู้ตาย ได้นำรถจักรยานยนต์มาจอดไว้ โดยนายรณกร ได้ปล่อยให้ผู้ตายเดินขึ้นบันไดกว่า 360 ขั้น ไปบริเวณยอดเสาธงก่อน หลังจากนั้นได้ทำทีเป็นซื้อดอกไม้ แล้วเดินตามผู้ตายเดินขึ้นไปยังจุดที่ 2 เป็นช่วงระหว่างก่อนถึงยอดเสาธง ประมาณ 50 เมตร คนร้ายได้ฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุข่มขืนผู้ตาย

ขณะที่ผู้ตายอยู่ในสภาพเหนื่อยหอบ นายรณกร ได้ทำการข่มขืนผู้ตายและก่อนที่จะสำเร็จความใคร่ นายรณกรได้พยายามนำอวัยวะเพศยัดใส่ช่องปากของผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ยอมพยายามหลบหนี และได้มีการต่อสู้ขัดขืน นายรณกรจึงได้หยิบท่อนไม้ตีเข้าที่บริเวณท้ายทอยผู้ตาย ต่อมาจุดที่ 3 เป็นจุดที่ผู้ตายได้โอกาสวิ่งหลบหนี ลงบันไดมาที่บริเวณด้านล่าง ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 30 เมตร จนสะดุดหกล้ม ส่งผลให้นายรณกร วิ่งตามลงมาทัน และลงมือก่อเหตุนำก้อนหินข้างบันได ทุบเข้าที่บริเวณศีรษะจนผู้ตายสลบ แล้วจับผู้ตายหงายหน้า ก่อนจะนำก้อนหินทุบซ้ำเข้าที่บริเวณศีรษะและใบหน้าจำนวนหลายครั้ง จนเสียชีวิตคาที่

หลังจากนั้น นายรณกร ก็ได้ถอดกางเกงในผู้ตายออกแล้วโยนทิ้งบริเวณโขดหิน ส่วนศพผู้ตายก็ได้อุ้มไปอำพรางคดี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ลงมือฆาตกรรมประมาณ 20 เมตร ก่อนจะนำก้อนหินและใบไม้แห้งวางทับศพไว้เพื่ออำพรางคดี ต่อมานายรณกร ก็ได้เดินลงมาจากจุดเกิดเหตุ แล้วทำทีเป็นพูดคุยกับพ่อค้าขายดอกไม้ ก่อนจะรีบขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป และกลับไปยังที่บ้านพักนอนสูบบุหรี่

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ศักดิ์ระพี เพียวพานิช รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงพื้นที่และกระจายกำลังทันที ซึ่งใช้เวลาจับกุมตัวนายรณกร ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า หลังจากที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก็พบว่านายรณกร ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ขึ้นไปบนยอดเขา และจากการสอบเข้าไปตรวจสอบที่บ้านพัก ก็พบว่าสภาพร่างกายของนายรณกร มีรอยกัดและรอยเล็บติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน จนท้ายนายรณกร ก็ได้ให้การรับสารภาพ เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากกลัวว่าผู้ตายจะไปแจ้งความดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมความเข้มงวดเพิ่ม พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับการท่องเที่ยว และชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยผิดกฎหมาย ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้ส่งไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้สถานทูตแจ้งไปยังครวบครัวผู้เสียชีวิต ให้มารับศพไปบำเพ็ญทางศาสนาต่อไป