ครอบครัว 'ผู้กองวัชรินทร์' ร้องกองปราบหลังคดีไม่คืบ

ญาติของ ร.ต.อ.วัชรินทร์ เบญจทศวรรษ อดีตรอง สว.กก.สส.ภ.จว.สงขลา ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตที่หน้าบ้านพักใน จ.สงขลา พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบเพื่อให้ช่วยรับโอนคดีเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

จากกรณีเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วัชรินทร์ เบญจทศวรรษ อดีตรอง สว.กก.สส.ภ.จว.สงขลา ที่เคยฟ้องร้องอดีตผบก.ภ.จว.สงขลา ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านของตนเองเลขที่ 150/39 ถ.ประสานมิตร ซอย 2 หมู่บ้านประสานมิตร ม.8 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าแม้เวลาจะล่วงมานานกว่าครึ่งเดือนตามที่ได้เสนอข่าวไปนั้นความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 เมษายน ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นางวีระวรรณ เบญจทศวรรษ ภรรยา นายสุชาติ คงระวะ พี่ชายผู้ตาย พร้อมนายชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. เพื่อร้องขอให้กองปราบปราม รับโอนคดีจากท้องที่มาสืบสวนสอบสวน หลังคดีไม่คืบมานานกว่าครึ่งเดือนนายสุชาติ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้เรียกตัวคนในครอบครัวไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองสงขลา เพื่อสอบถามถึงสาเหตุหรือปมการสังหาร แต่ทางครอบครัวก็ไม่ทราบเนื่องจาก ร.ต.อ.วัชรินทร์ มีข้อขัดแย้งกับบุคคลหลายฝ่าย ทั้งนายตำรวจที่เคยถูกร้องเรียน หรือปัญหาเรื่องที่ดินที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จน

กระทั่งเรื่องขึ้นสู่ชั้นศาลทำให้ทางครอบครัวยังไม่สามารถฟันธงได้ว่ากลุ่มไหนเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางครอบครัวทราบว่า ร.ต.อ.วัชรินทร์ ถูกคุกคามหลายรูปแบบ ทั้งปล่อยลมยางรถ และอื่นๆ จนสร้างความหวาดระแวง แต่ไม่เคยแจ้งความไว้ จนกระทั่งเกิดเหตุสลดนี้ขึ้น ทั้งนี้จะขอให้ตำรวจช่วยสืบสวนในทุกประเด็น ซึ่งต่อจากนี้ จะเดินทางไปยื่นเรื่องให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอไอ) ช่วยสืบสวนสอบสวนอีกทางหนึ่ง ด้าน นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ร.ต.อ.วัชรินทร์ มาบอกกับตน รู้สึกว่ากำลังถูกปองร้าย ไม่กล้าที่จะอาศัยอยู่พื้นที่ พร้อมปรึกษาตนเรื่องร่างพินัยกรรม ก่อนเกิดเหตุถูกยิงเสียชีวิตเพียงไม่กี่วัน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ทราบตัวบุคคลต้องสงสัย เนื่องจากผู้ตายมีความขัดแย้งกับคนหลายกลุ่มเบื้องต้น พ.ต.ท.จตุพร รับเรื่องร้องทุกข์ของผู้เสียหายไว้พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานก่อนประสานไปยังกองกำกับการ 6 บก.ป.รับเรื่องไว้ดำเนินการพิจารณาต่อไป