สาวเล่า ปสก.ป่วยหนักเฉียดตายหลายครั้ง รูปร่างกลายเป็นคนละคน

เรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องมาป่วยหนัก และได้เข้ารับการรักษาตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเกือบ 2 ปี และการรักษาของเธอนั้น กลายเป็นว่ารูปร่างหน้าตาของเธอกลับเปลี่ยนไปอย่างกับว่ากลายเป็นคนละคน โดยเธอเล่าเรื่องของเธอผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาดังต่อไปนี้ 

 

 

หลายคนคงตกใจว่า ทำไมเราถึงบวมขนาดนี้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ทำไมไม่เคยลงรูปตัวเองสักที ตอนแรกเราไม่คิดที่จะลงเพราะว่าอายคนอื่น คิดเอาไว้ว่า เดี๋ยวหายจะลงเป็นกำลังใจให้คนอื่น

ตอนแรกเราไม่คิดที่จะลงเพราะว่าอายคนอื่น คิดเอาไว้ว่า เดี๋ยวหายจะลงเป็นกำลังใจให้คนอื่น

แต่ตอนนี้เราไม่รู้เลยว่าจะหายหรือป่าวเพราะเรากลับเข้ามาเข้า รพ. อีกครั้ง และไม่รู้จะได้เป็นกำลังใจให้คนอื่นได้อีกหรือป่าว

เราป่วยมา ถ้าถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ก็จะครบ 2 ปีแล้ว จะเสียชีวิตอยู่ 2 ครั้งแต่ก็ผ่านมันมาได้ เราเป็นหลายอย่างมาก 

#ลิ่มเลือดอุดตันในสมอง ทำ mri ฉีดยาเข้าที่หน้าท้องประมาณ 30 วัน วันละ 1 เข็ม

#ภาพซ้อน คิดว่าตาต้องบอดแน่ๆมองอะไรก็เห็น 2 ภาพ #เลือดออกที่ตา สาเหตุก็เพราะลิ่มเลือดอุดตันนั้นละ ท้อมาก หลังจากนั้นก็ดีและก็แย่ลง เข้าออก รพ.ทุกเดือน ที่สำคัญคือเราเดินไม่ได้ อาบน้ำไม่ได้ แรงจะกินข้าวเองยังไม่มี สุดท้ายน้าเราก็ไปถอยรถเข็นมาให้เราได้นั่งไปไหนมาไหน แถมถอยโถวฉี่มาให้เราอีกจะได้ไม่ต้องเดินเข้าห้องน้ำ ทุกๆ วันเราต้องอดทน ทำตัวเข้มแข็ง แต่จริงๆเราท้อมากแต่เราก็ผ่านมาได้ในทุกๆ วัน เราฉีดยาทุกตัว กินยาทุกอย่าง แต่ก็ไม่หาย

ล่าสุดเราหาหมอศิริราช hct เราขึ้นมา 38 เราดีใจมาก และตอนนี้ เรากลับมาเข้า รพ. อีกครั้ง เพราะ hct เรา เหลือ 15 เราเลยตัดสินใจลงเหตุการณ์ต่างๆที่ป่วย เพราะเราก็คิดที่จะไม่อยากมีชีวิตอยู่หลายๆครั้ง เราสิ้นหวัง ท้อแท้ ว่าเราจะหายไหม จะมีชีวิตแบบคนอื่นได้หรือเปล่า แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตายแม้แต่ครั้งเดียว ทุกอย่างที่ลงเพื่อให้คนอื่นที่กำลังท้อ สู้ต่อไปนะคะ เราเป็นอีก 1 กำลังใจให้ เพราะเราก็ผ่านอะไรมาไม่น้อยเลย

ทุกวันนี้เราก็ใช้ชีวิตอยู่กับที่บ้าน ขายตุ๊กตาบ้าง กรอบรูปบ้าง ครีมบ้าง เพื่อให้ไม่คิดมากมันก็ช่วยได้ในระยะหนึ่งนะคะ ตอนนี้เราก็พบจิตเวชเพราะเครียด ยามันก็แค่ส่วนนึงทำให้เราหาย หมอบอกว่า ให้เราพูดคิดแต่สิ่งดีๆ ทำแต่สิ่งดีๆ และเราจะเจอแต่สิ่งดีๆ ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ รูปร่างหน้าตาก็ไม่แน่นอน ทุกสิ่งในชีวิตล้วนปรุงแต่งขึ้นมาทั้งหมด

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Boonyawee Payung