ชาวเวเนซุเอลา ใช้น้ำเสียประทังชีวิตหลังไฟดับติดต่อกันหลายวัน

ประชาชนทั่วเวเนซุเอลาต้องเผชิญกับการไม่มีไฟฟ้าใช้มานาน 5 วันติดต่อกันแล้ว และยังไม่มีน้ำประปาใช้จนต้องแห่ไปตักน้ำเสียมาประทังชีวิต ขณะที่สมัชชาแห่งชาตินำโดยนายฮวน ไกวโด ผู้ตั้งตนเป็นรักษาการประธานาธิบดี ประกาศภาวะ "เตือนภัย" ระดับชาติ

สมัชชาแห่งชาติซึ่งฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากได้จัดการประชุมท่ามกลางปัญหาไฟดับในหลายพื้นที่ทั่วประเทศรวมถึงในกรุงการากัส โดยนายฮวน ไกวโด ประธานสมัชชาแห่งชาติได้ใช้อำนาจในฐานะรักษาการประธานาธิบดี ประกาศภาวะเตือนภัย หรือ "state of alarm" และกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่อยู่ในภาวะปกติในเวเนซุเอลา และเราจะไม่ยอมปล่อยให้โศกนาฎกรรมเช่นนี้กลายเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ไกวโดยังไม่สามารถควบคุมการบริหารประเทศได้อย่างแท้จริง ทำให้ไม่มีความชัดเจนว่า การประกาศดังกล่าวจะมีผลในทางรูปธรรมอย่างไร

ด้านประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ซึ่งสั่งปิดสถานที่ราชการและโรงเรียนมาตั้งแต่วันศุกร์ กล่าวผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ กล่าวหาไกวโดว่าร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ โจมตีไซเบอร์ระบบผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าของประเทศ และอ้างว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยโจมตีระบบสื่อสารของเขื่อนในรัฐโบลิวาร์ได้แล้ว 2 ราย ไกวโดเคยบอกก่อนหน้านี้ว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดไฟดับมาจากความล้มเหลวของรัฐบาลในการพัฒนาและซ่อมบำรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมานานกว่า 20 ปี ปัญหาไฟดับที่ยืดเยื้อได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้อาหารเน่าเสียเพราะตู้เย็นไม่ทำงาน, โรงพยาบาลรักษาคนไข้ไม่ได้, โทรศัพท์มือถือแทบไม่มีสัญญาณ, เกิดการปล้นสะดมถ์, รวมทั้งท่าเรือ "โฮเซ่" ที่ใช้ส่งออกน้ำมันซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศก็ไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นกัน ส่วนที่เห็นอยู่นี้คือชาวบ้านหลายสิบคนที่แห่กันมารองน้ำจากแม่น้ำไกวเรที่ไหลผ่านบริเวณร่องกลางถนนในกรุงการากัสเพื่อนำไปประทังชีวิตจากการไม่มีน้ำประปาใช้  แม้ทราบดีว่าน้ำดังกล่าวปนเปื้อนของเสียและสิ่งสกปรกก็ตาม ขณะเดียวกันได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณสถานีไฟฟ้าในกรุงการากัสเมื่อวานนี้ ซ้ำเติมปัญหาให้ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก