ทนายรณณรงค์ ชี้ข้อกฎหมาย ป.วิอาญา กรณีกู้ภัยนั่งเฝ้าศพ

จากกรณีนายนพดล สีทองคำ อาสากู้ภัยประจำจุด จ.นนทบุรี ที่ได้มีภาพถ่ายขณะนั่งเฝ้าศพผู้เสียชีวิตกระโดดสะพานพระราม 7 ลงแม่น้ำเจ้าพระยาจนกลายเป็นข่าวดังเเชร์สนั่นโลกออนไลน์ ซึ่งนายนพดล นั่งอยู่เป็นเพื่อนศพเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เวลา 03.00 น. จนกระทั่งช่วงเช้าเวลา 07.00 น. เนื่องจากต้องรอให้ตำรวจสรุปท้องที่รับผิดชอบให้ชัดเจนว่า 4 โรงพักในจุดเกิดเหตุ สน.หรือ สภ.ใดมีอำนาจสอบสวน เเละเมื่อภาพเเละข่าวดังกล่าวเเพร่กระจายออกไปในวงกว้าง  ทำให้ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูได้มีคำสั่งย้ายนายนพดล สีทองคำ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ อธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า อย่างเเรกต้องทำความเข้าใจกฎหมายก่อน เรื่องกฎหมาย ป.วิอาญา โดยจะกำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการพบเห็น , มีเหตุการณ์กระทำความผิดต่อเนื่อง , พื้นที่ไม่เเน่ชัด เเละตามประมวลกฎหมายดังกล่าวจะระบุไว้ชัดเจนว่า พนักงานสอบสวนท้องที่ไหน ต้องเป็นคนทำคดีนั้น

กรณีพบศพลอยมาตามน้ำ ตอนพบเรายังไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นคดีฆาตกรรม อุบัติเหตุ หรือฆ่าตัวตายเอง ถ้าเป็นฆาตกรรมอำพราง การสืบสวนสอบสวน ต้องเริ่มจากจุดที่มีการพบศพ เเปลว่าเห็นสาเหตุการตาย การพบโดยปกติทั่วไปเเล้วตร.มักจะไม่ล่าช้า เเต่บางทีอาจกำลังดูอยู่ว่า ท้องที่ไหนต้องรับผิดชอบ เขามีอำนาจหรือเปล่า ถามว่าสำคัญอย่างไร หากผลออกมาคือมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น จะส่งผลทำให้การสอบสวนของตำรวจทั้งหมดในชั้นศาลใช้ไม่ได้เลย เเละถ้าตร.ที่ทำคดีไม่มีอำนาจสอบสวน ศาลต้องยกฟ้อง จึงต้องตรงท้องที่เท่านั้น 

เเละถ้าวันนั้นพบว่าพบศพลอยน้ำมาจากที่อื่น เเล้วพบว่า หน่วยงานในพื้นที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะผิดวินัยอีก เผลอๆโดนฟ้องดคีอาญาด้วย เเต่กรณีทางระเบียบของสำนักงานตำรวจ กรณีพบศพลอยน้ำ ถ้าศพเอาขึ้นพื้นที่ไหน พื้นที่นั้นมีหน้าที่รับผิดชอบหาสาเหตุการตาย เเต่เข้าใจว่า เจ้าหน้าที่บางท่านรู้ระเบียบเยอะ หรือไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ ถ้าเป็นอย่างหลัง ก็ไม่เเปลกที่เขาจะมาช้า

ขอบคุณคลิปจาก : ไบรท์ ทีวี