(คลิปข่าว) อนุมัติแสนล้าน พัฒนา "เอสอีซี" คาดดันจีดีพีใต้

คณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบงบประมาณโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ เอสอีซี วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาทในช่วง 4 ปี คาดดันจีดีพีภาคใต้โต 5% ต่อเนื่อง 10 ปี

ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ระบุ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการศึกษาความเหมาะสมโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือเอสอีซี โดยเป็นการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ตอนบน 4 จังหวัด คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ครอบคลุมพื้นที่ 3 แสนตารางเมตร ประชากร 3 ล้านคน กรอบวงเงินงบประมาณในการพัฒนาโครงการปี 2562-2565 จำนวน 1.068 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการในพื้นที่ 116 โครงการสำหรับผลที่คาดว่าจะได้จากการพัฒนาโครงการเอสอีซี คือ 1.ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจในช่วง 10 ปีแรกของการพัฒนาโครงการในช่วงปี 2562-2572 จีดีพีของพื้นที่เอสอีซีขยายตัวเฉลี่ย 5% ต่อปี จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านคนต่อปี การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 2 แสนล้านบาท โดยภาคอุตสาหกรรมจะยกระดับเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม2.ประโยชน์ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ โดยจะพัฒนาให้เอสอีซีเป็นประตูเศรษฐกิจฝั่งตะวันตกของประเทศ โดยโครงสร้างพื้นฐานมีการบูรณาการและเชื่อมโยงกันทั้งระบบทางบก ทางน้ำและทางอากาศเพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่รวมทั้งเชื่อมโยงระหว่างภาคใต้กับอีอีซี และเอเชียใต้ โดยลดระยะเวลาในการขนส่งสินค้าได้ครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับการขนส่งผ่านท่าเรือแหลมฉบังไปยังอินเดียจาก 9-15 วัน เหลือ 4-7 วัน ส่วนการพัฒนาสนามบินในพื้นที่จะให้รองรับผู้โดยสารได้อย่างน้อย 10 ล้านคนต่อปีในทุกสนามบินที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น3.ประโยชน์ที่จะได้รับจากการพัฒนาเมือง สามารถสร้างเมืองน่าอยู่ให้เกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลา 10 ปี โดยมีการพัฒนาเมืองตามการวางแผนอย่างเป็นระบบ และพัฒนาเมืองในพื้นที่เอสอีซีให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสังคม และการบริการที่สามารถรองรับการพัฒนาให้กับพื้นที่โดยรอบ4.ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สังคมและชุมชน เช่น การอนุรักษ์ป่าชายเลน 1.62 แสนไร่ เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพที่หลากหลายและเพิ่มรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากอัตลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นได้สำหรับกรอบการพัฒนาเอสอีซีมี 4 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาประตูการค้าฝั่งตะวันตก 10 โครงการ วงเงินรวม 4.92 หมื่นล้านบาท เพื่อเชื่อมโยงฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน-เอเชียใต้ 2.การพัฒนาประตูสู่การท่องเที่ยวอ่าวไทยและอันดามัน 31 โครงการ วงเงินรวม 3.95 หมื่นล้านบาทโดยยกระดับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในพื้นที่ โครงการปรับปรุงท่าอากาศยานชุมพรเพื่อการท่องเที่ยว และการพัฒนาถนนเลียบชายฝั่ง ช่วงสมุทรสงคราม-เพชรยุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว3.การพัฒนาอุตสาหกรรมฐานชีวภาพและการแปรรูปการเกษตรมูลค่าสูง 32 โครงการ วงเงินรวม 6.49 พันล้านบาท เช่น โครงการสนับสนุนศูนย์แปรรูปสมุนไพรครบวงจร โครงการจัดตั้งสถาบันเศรษฐกิจสัตว์น้ำเศรษฐกิจแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการจัดตั้งโรงงานต้นแบบสำหรับการผลิตนวัตกรรมยางพารา4.การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติการส่งเสริมวัฒนธรรมและการพัฒนาเมืองน่าอยู่ 38 โครงการ วงเงินรวม 7.12 พันล้านบาท เช่น โครงการจัดทำระบบการจัดการโลจิสติกส์อัจฉริยะ หรือ Smart Cityที่ประชุมได้อนุมัติงบกลางฯปี 2562 เพื่อจัดสรรดำเนินการโดยทันที 8 โครงการ วงเงินรวม 2,677 ล้านบาท เช่น การพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมการตลาดของท่าเรือระนองรองรับกลุ่ม BIMSTEC โครงการปรับปรุงท่าอากาศยานระนอง โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ