Program Online

คนขับรถไถขอความเป็นธรรม หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าน้องต้าแง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายสมาน วงษ์กัณหา ยืนกรานหนักแน่นว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าเด็ก หลังพ่อและแม่เด็กสงสัยว่าตนเป็นคนฆ่าน้องต้าแง เนื่องจากเป็นคนเห็นลูกชายเป็นคนสุดท้าย

กรณีเด็กชายซูลุยผิว วัย 2 ปี 1 เดือน ชาวเมียนมาหายตัวไปในไร่อ้อยห่างจากริมถนนมาลัยแมน 3 กิโลเมตร ลึกไปในถนนทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กว่า 700 คน ระดมกำลังค้นหาเป็นเวลานานถึง 9 วัน 

 

จนกระทั่งเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (25 ธันวาคม 2561) ยืนยันว่า เจอร่างหนูน้อยซูลุยผิว หรือน้องต้าแงแล้ว เสียชีวิตห่างจากจุดสูญหายเพียง 5 กิโลเมตร ภายในไร่อ้อย

ขณะเดียวกันพ่อและแม่เด็กที่เสียชีวิต คือนายผิวและนางมอ ได้เปิดใจผ่านล่ามว่า ยังคาใจการเสียชีวิตของลูกเพราะมีรอยบาดแผลฉกรรจ์คล้ายของมีคมบาดที่ต้นขาจนเกือบขาด และมีรอยยุบที่กะโหลก จึงเชื่อว่าลูกตาย ไม่ใช่เพราะหลงป่า แต่มีคนทำให้ตาย และในป่าอ้อยลึกจุดที่พบศพ ลูกไม่มีทางเดินไปได้ ทั้งนี้พ่อและแม่เด็กชี้เป้าไปที่คนขับรถไถ เนื่องจากเป็นคนเห็นลูกชายเป็นคนสุดท้าย

 

ด้านคนขับรถไถ ทราบชื่อนายสมาน วงษ์กัณหา อายุ 44 ปี เจ้าตัวยืนกรานหนักแน่นว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าเด็ก โดยเจ้าตัวยอมรับเจอกับเด็กทั้ง 2 คน ในวันเกิดเหตุจริง ซึ่งตอนนั้นกำลังไถดินแปรงตรงข้างกับจุดที่พ่อแม่เด็กกำลังทำงานอยู่ ในขณะที่ขับผ่าน ตนเห็นเด็กทั้งคู่กำลังนั่งเล่นกันอยู่ตรงริมป่าอ้อย ไม่ใช่ใต้ต้นแจง และยังเชื่อว่าหากเด็กพบรถไถกำลังทำงานอยู่ ก็จะไม่เข้าใกล้ เนื่องจากรถไถมีเสียงดัง หรือไม่ก็จะรีบเดินหนีทันที

 

หลังจากที่ไถดินเสร็จ ตนก็ได้ขับกลับไปที่บ้านและเปลี่ยนไปขับรถอีกคันหนึ่ง คือรถคีบอ้อย ออกจากบ้านไปคีบอ้อยที่สวนข้างบ้าน ไม่ได้ผ่านไปบริเวณจุดที่เด็กหายแต่อย่างใด จนถึงช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเด็กหาย มีเจ้าของไร่เข้ามาถามตนเองว่าเจอเด็กหรือไม่ ตนจึงออกไปช่วยตามหา แต่ก็ไม่พบ

 

นายสมาน กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่า ตนไม่ได้หลบหนีอย่างแน่นอน เพราะตนเองคือผู้บริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนทราบข่าวตนก็ยังออกไปร่วมตามหา ตอนนี้ได้มอบให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบรถไถคันดังกล่าว รวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ซึ่งผลก็จะพิสูจน์ได้กับการตรวจดีเอ็นเอเรียบร้อยแล้ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ