(คลิปข่าว) ตำรวจ-ผู้ชุมนุม ปะทะเดือดกลาง "ฌ็องเซลิเซ่"

ขณะที่ ปธน.ฝรั่งเศสประณามการใช้ความรุนแรงของผู้ชุมนุม นี่คือภาพบรรยากาศในย่านฌ็องเซลิเซ่ ย่านการค้าและการท่องเที่ยวสำคัญใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ ที่กลายสภาพเป็นสมรภูมิเดือดระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 5 พันนาย ที่ใช้ทั้งแก๊สน้ำตา สายฉีดน้ำแรงดันสูง และกระบอง สลายผู้ชุมนุม "เสื้อกั๊กเหลือง" กว่าแปดพันคนที่มาชุมนุมประท้วงการขึ้นราคาเชื้อเพลิงของรัฐบาลเป็นสัปดาห์ที่สองที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเข้ามาชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดีและรัฐสภาประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง ซึ่งผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ลาออก ชื่นชมการทำงานของตำรวจและประณามผู้ชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่

ขณะที่กระทรวงมหาดไทยคาดการณ์ว่าเมื่อวานนี้มีจำนวนผู้ชุมนุมทั่วประเทศกว่า 1 แสนคนใน1,600 จุด แต่การประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปโดยสันติ ตรงข้ามกับการชุมนุมในปารีสที่ผู้ประท้วงทั้งจุดไฟเผา ทำลายป้ายสัญญาณจราจร ตั้งสิ่งกีดขวาง รื้อก้อนหินที่ปูถนนและขว้างปาใส่ตำรวจการปะทะที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 19 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ 4 นาย และมีการจับกุมผู้ชุมนุมแล้วราว 40 คน ขณะที่ทั่วประเทศมีการจับกุมผู้ชุมนุมทั้งสิ้น130 คน โดยการชุมนุมเมื่อวานถือว่าลดขนาดลงจากสัปดาห์แรกที่มีผู้ชุมนุมเกือบ 3 แสนคน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บกว่า 600 คนรัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสกล่าวหาผู้ชุมนุมว่าถูกชักจูงจากผู้นำพรรคชาตินิยมขวาจัด นั่นคือ นางมารีน เลอ แปน ซึ่งแพ้ให้กับ ปธน.มาครง ในการเลือกตั้งราคาน้ำมันดีเซลในฝรั่งเศสในปัจจุบันอยู่ที่ราว 1.51 ยูโร หรือราว 56 บาทต่อลิตรซึ่งแพงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี แต่ผู้นำฝรั่งเศสอ้างว่า การขึ้นราคาน้ำมันเป็นไปตามนโยบายสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนแทนพลังงานฟอสซิล