(คลิปข่าว) อย่าละเลย!! คุณหมอเผยอันตรายจากฟันผุ

หมอฟันโพสต์เตือนอุทาหรณ์ปล่อยฟันผุจนสุดท้ายลุกลามอักเสบมีหนองหลังดวงตาดันให้ตาปูดโปนมีน้ำหนองไหล มาพบแพทย์ด้วยอาการตาพร่าเลือนมองไม่ค่อยเห็นแล้วเคราะห์ดีพบสาเหตุรักษาได้ทันก่อนเสียดวงตาไปจึงขอนำเรื่องนี้แจ้งเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้อื่นให้ตระหนักถึงอันตรายจากฟันผุที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องเล็ก

โดยเฟซบุ๊กของหมอฟันชื่อว่า Doctor Aree ได้โพสต์อุทาหรณ์เตือนภัยฟันผุลุกลามขึ้นตาไว้เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมาระบุ

ฟันผุ อย่าละเลย ฟันผุ สามารถเป็นสาเหตุของการติดเชื้อลุกลามเข้าสู่ไซนัสและลามมาในเบ้าตาด้านหลังลูกตาได้ เช่นเคสนี้เป็นต้น ตาปูดโปน มองจนเห็นแค่นิ้วลางๆ ปวดตามาก CT พบหนองในไซนัสและในเบ้าตา และแถวรากฟัน

ได้ผ่าตัดถอนฟัน และผ่าตัดระบายหนองหลังเบ้าตาและไซนัส รวมถึงให้ยาฆ่าเชื้อ จนกลับมามองเห็นได้ปกติ แต่รายอื่นๆหากรักษาไม่ทันอาจไม่โชคดีกลับมามองได้แบบรายนี้นะคะ

#ฟันผุทำให้ตาติดเชื้อได้#ฟันผุถึงรากฟันลามมาตาบอดได้#ดูแลสุขภาพช่องปากและสุขภาพตาต่อเนื่อง#หนองในเบ้าตา#ตาโปน#แชร์ได้เลยค่ะ#OrbitalAbscess#DrAree

 

ซึ่งก่อนหน้านี้เองก็เคยมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องฟันผุที่ลุกลามสร้างความเจ็บปวดและเป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นกับเด็กชายคนหนึ่งโดยย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2561

 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Pitayarat Sitkongkhajorn ซึ่งเป็นแพทย์ได้โพสต์เตือนใจพ่อแม่ปล่อยลูกฟันผุ ระบุรายละเอียด

#อุทาหรณ์ สำหรับพ่อแม่ที่คิดว่าฟันผุแค่เรื่องธรรมดา . #เคสนี้เนื่องจากฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน และเกิดการติดเชื้อ จึงต้องถอนฟันและเจาะระบายหนองให้ยาฆ่าเชื้อนอนโรงพยาบาล 1 อาทิตย์ และ ส่งล้างแผลต่อที่ รพ.สต.

รักลูกช่วยลูกแปรงฟันทุกวัน รักลูกอย่าเลี้ยงลูกด้วยขนมไปวันๆ ด้วยความปราถนาดีจากเรา #ทันตภิบาล ประจำรพ.สต

ปล. รูปได้รับอนุญาติจากผู้ปกครองเด็กแล้วนะคะ
....โปรดอย่าใช้คำรุนแรงในการคอมเม้นต์ นะคะ. โพสต์นี้ตั้งใจให้เป็นแค่อุทาหรณ์จริงๆค่ะ

***#ขออนุญาติ อธิบายเคสนี้เพิ่มนิดหน่อยนะคะเคสที่ได้โพสต์ไป คนไข้ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลโดยแพทย์เป็นผู้รักษาและแพทย์ได้ส่งกลับมารักษาต่อ(ล้างแผล)ใน รพ.สต.ไกล้บ้าน เราเป็น#ทันตาภิบาลได้ล้างแผลทำการส่งเสริมป้องกันต่อไป ตามความ
เหมาะสมเท่านั้น. และจึงได้โพสต์ไปเพียงต้องการกระตุ้นให้ผู้ปกครอง ครูผู้ดูแลเด็กตระหนักถึงการดูแลสุขภาพช่องปากเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาอื่นๆแต่อย่างได ขออภัยถ้าเนื้อหาไม่เหมาะสมนะคะ***

 

ชาวเน็ตที่ได้เห็นโพสต์ต่างรู้สึกหวาดกลัวและต่างช่วยกันเตือนคนในครอบครัวหรือเพื่อนๆให้มาอ่านโพสต์นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจไม่ปล่อยปะละเลยปัญหาช่องปากจนอาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงได้