Program Online

"ภรรยา อ.ถวัลย์ " เปิดปมพิพาทมรดกพันล้าน "ดอยธิเบศร์"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ภรรยาอ.ถวัลย์ " เปิดเอกสาร 5 หน้าไล่เลียง ปมพิพาทมรดกพันล้าน "ดอยธิเบศร์"-ปัดไม่รู้ภาพมูลค่ากว่า300ล้าน "ถวัลย์ ดัชนี" หายไปกว่า100ภาพ

"ภรรยา อ.ถวัลย์ " เปิดปมพิพาทมรดกพันล้าน "ดอยธิเบศร์"

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 18 กันยายน นางทิพย์ชาติ วรรณกุล ภรรยาของนายถวัลย์ ดัชนี ได้ส่งเอกสาร จำนวน 5 หน้า ที่ลงนามโดย ทิพย์ชาติ วรรณกุล ให้กับผู้สื่อข่าวพร้อมระบุว่าขอไม่ให้ถ่ายภาพ และบันทึกวีดีโอ

สำหรับเอกสาร 5 หน้านั้น มีเนื้อหาดังนี้ “สิ่งที่สังคมในขณะนี้ได้รับรู้รับทราบข้อมูลเพียงด้านเดียวจากสื่อมวลชน ที่มีคนมากล่าวอ้างว่าเกิดกรณีทรัพย์สมบัติของชาติ ซึ่งเป็นผลงานศิลปะที่เกิดจากการสร้างสรรค์และรังสรรค์ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ได้สูญหายไปมีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทนั้น

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เดิมป้าอ๊อดว่าจะไม่ให้ข่าวใดๆ ทั้งสิ้น คุณดอยธิเบศร์นั้น ป้าอ๊อดดูแลมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ตามโอกาสและที่ลุงหวัน (อ.ถวัลย์ ดัชนี) มอบหมายให้ดูแล เมื่อมากรุงเทพฯด้วยความเอื้อเอ็นดู มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันตลอดมา คุณดอยธิเบศร์ก็เป็นคนในครอบครัว ซึ่งการมีคดีความกับคนในครอบครัวป็นเรื่องที่เจ็บปวด เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากลุงหวันเสียชีวิตมีมากมายแต่ป้าอ๊อดไม่ปรารถนาให้เรื่องราวเหล่านั้นปรากฏสู่สาธารณชน ป้าอ๊อดจึงไม่อยากนำเสนอข่าวที่เป็นการกระทบกระทั่งหรือพาดพิงถึงบุคคลใด เกรงว่าจะเป็นการเสื่อมเสียเกียรติของลุงหวันผู้ล่วงลับจากป้าอ๊อดไปอย่างไม่มีวันกลับ ป้าอ๊อดขอใช้พื้นที่เล็กๆ ขอให้รายละเอียดข้อเท็จจริงบางเรื่องเพียงครั้งเดียว โดยขออนุญาตที่จะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ดังนี้

1.ป้าอ๊อดเป็นภรรยาคู่ชีวิตของลุงหวัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่กินด้วยกันฉันท์สามีภรรยามาด้วยกันเป็นเวลาสามสิบกว่าปี ในคดีจัดการมรดก ศาลฎีกาได้โปรดพิพากษารับรองสิทธิของป้าอ๊อดว่าเป็นภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสมีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันระหว่างที่อยู่กินด้วยกัน

2.ต่อมาป้าอ๊อดได้ใช้สิทธิทางศาลในการเรียกร้องกรรมสิทธิ์ในส่วนของป้าอ๊อดในฐานะภรรยาที่ทำมาหาได้ร่วมกันเป็นเวลาสามสิบกว่าปี

โดยคดีดังกล่าว ในชั้นไกล่เกลี่ยหรือประนอมข้อพิพาท ป้าอ๊อดกับคุณดอยธิเบศร์ได้ตกลงไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เพื่อยุติคดีความโดยกำหนดกรอบต่อผู้ประนอมหรือผู้ไกล่เกลี่ย ดังนี้
1.พิพิธภัณฑ์บ้านดำเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ ยกให้แก่คุณดอยธิเบศร์ ดัชนี
2.บ้านกรุงเทพฯ 2 หลัง กล่าวคือบ้านรั้วเขาควาย และทาวน์เฮ้าส์บ้านเกษราฯ รวมกันเนื้อที่ไม่ถึง 200 ตารางวา ยกให้แก่ป้าอ๊อด
3.ภาพวาดของลุงหวัน แบ่งกันในอัตราส่วน 60 ต่อ 40 (คุณดอยธิเบศร์ 60 ป้าอ๊อด 40)
4.เงินในบัญชี แบ่งกันในอัตราส่วน 60 ต่อ 40 (คุณดอยธิเบศร์ 60 ป้าอ๊อด 40)

ที่สำคัญ ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันว่า พิพิธภัณฑ์บ้านดำ บ้านกรุงเทพฯ 2 หลังและผลงานภาพวาดศิลปะของลุงหวัน ไม่ว่าฝ่ายใดจะครอบครองก็ตาม จะไม่มีการขายไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

เนื่องจากทรัพย์สินที่พิพาทยังไม่ได้รวบรวมและจัดทำร่วมกันตามกฎหมาย คุณดอยธิเบศร์ในฐานะผู้จัดการมรดก และป้าอ๊อดในฐานะภรรยา จึงได้ตกลงร่วมกันเพื่อจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่พิพาทร่วมกัน 3 แห่ง กล่าวคือ ที่บ้านดำ และที่บ้านกรุงเทพฯ 2 แห่ง

โดยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561 และวันที่ 15 มิถุนายน2561 ป้าอ๊อดได้ยินยอมและอนุญาตให้ฝ่ายของคุณดอยธิเบศร์ ซึ่งประกอบไปด้วยทนายความช่างภาพ และผู้จัดการพิพิธภัณฑ์บ้านดำ เข้ามาถ่ายภาพทรัพย์สินทั้งหมดภายในบ้านร่วมกันและจัดทำบัญชีทรัพย์ร่วมกัน ที่บ้านรั้วเขาควาย และบ้านเกษราฯ ตามข้อตกลงทั้งนี้ป้าอ๊อดได้อำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม และเรื่องอื่นๆ อาทิเช่น ให้คนรับใช้และได้ว่าจ้างบุคคลภายนอกมาช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อให้การถ่ายภาพร่วมกันและการจัดทำบัญชีทรัพย์พิพาทสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยฝ่ายของป้าอ๊อดมีทนายความ ช่างภาพ 2 คน ผู้ดูแลบ้านอีก 2 คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีโดยไม่มีการโต้แย้งคัดค้าน หรือกระทบกระทั่งใดๆ ทั้งสิ้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ซึ่งเป็นวันนัดไกล่เกลี่ยเพื่อสอบถามความคืบหน้าในเรื่องการถ่ายภาพทรัพย์พิพาทและการจัดทำบัญชีทรัพย์ร่วมกัน ซึ่งฝ่ายป้าอ๊อดและฝ่ายของคุณดอยธิเบศร์ ได้แถลงร่วมกันดังนี้

“นัดไกล่เกลี่ยในวันนี้ทนายทั้งสองฝ่ายแถลงร่วมกันว่า คู่ความได้ ถ่ายภาพเพื่อ จัดทำบัญชีภาพวาดแล้วเสร็จเพียง 2 แห่ง ส่วนที่เหลือบ้านดำคู่ความได้นัดช่างภาพและผู้ที่เกี่ยวข้องไปถ่ายภาพภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ซึ่งจะจัดทำบัญชีแล้วเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์จากนั้นจะได้นำมาเปรียบเทียบด้วยกันพร้อมจัดสรรรูปภาพทั้งหมดในสัดส่วน 60 ต่อ 40 ตามกรอบข้อตกลงในการเจรจาครั้งที่แล้ว ให้เลื่อนไปเจรจาในวันที่ 23 สิงหาคม 2561เวลา 9.30 น.

ซึ่งในวันดังกล่าวฝ่ายคุณดอยธิเบศร์ได้ให้สัญญาอย่างลูกผู้ชายและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะกับฝ่ายป้าอ๊อดและผู้ประนอมว่าในการร่วมกันถ่ายภาพและจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 นี้จะไม่ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น
ต่อมาในวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 ทนายความของคุณดอยธิเบศร์ได้โทรศัพท์มาหาทนายความของป้าอ๊อด และแจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ตามที่ได้เคยตกลงกันไว้แล้วนั้น คุณดอยธิเบศร์ ขอยกเลิกไม่อนุญาตให้ฝ่ายป้าอ๊อดไปถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำจังหวัดเชียงราย ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการผิดคำพูดในฐานะลูกผู้ชายที่เคยให้ไว้กับป้าอ๊อด และผู้ประนอมและเป็นการผิดข้อตกลง
เดิมการถ่ายภาพและจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ จังหวัดเชียงรายได้กำหนดไว้ภายในเดือนมิถุนายน 2561 หลังจากที่ถ่ายภาพและจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่บ้านเกษรา และบ้านรั้วเขาควายเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่คุณดอยธิเบศร์ได้บ่ายเบี่ยงอ้างว่าติดธุระ ขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 9.00 น. ซึ่งวันและเวลาดังกล่าวคุณดอยธิเบศร์เป็นผู้นัดหมายเองต่อมากลับเป็นฝ่ายทำผิดข้อตกลงยกเลิกนัดในภายหลัง และต่อมาคุณดอยธิเบศร์ได้ยกเลิกการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทในคดี

ซึ่งหลักฐานทั้งหมดปรากฏอยู่ในสำนวนศาล คดีนี้ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล โดยศาลได้โปรดนัดสืบพยานในเดือนมกราคม 2562

3.ผลงานศิลปะหรือทรัพย์สินที่มีการกล่าวอ้างนันลุงหวันยังไม่เคยยกให้แก่ผู้ใดและไม่ปรากฎหลักฐานแห่งการยกให้แก่ใครใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นคำกล่าวอ้างที่ว่าเป็นสมบัติของแผ่นดินจึงไม่เป็นความจริง อีกทั้งกรณีคดีแบ่งทรัพย์สินยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

4.ป้าอ๊อดไม่มีเจตนาที่จะครอบครองทรัพย์สินหรือผลงานศิลปะของลุงหวันแต่เพียงผูู้เดียวแต่อย่างใด โยขณะนี้อยู่ในระหว่างป้าอ๊อดกำลังจดทะเบียนตั้งมูลนิธิและจะทำพิพิธภัณฑ์เพื่อเชิดชูผลงานของลุงหวันและเป็นสถานที่ให้ความรู้ด้านศิลปะให้แก่สังคมโดยไม่เก็บเงินและไม่แสวงหาผลกำไร โดยจะมีภัณฑารักษ์และผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญคอยดูแลตลาดไป แม้ป้าอ๊อดเสียชีวิตไปแล้ว ทุกอย่างจะดำรงคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และป้าอ๊อดจะมอบให้เป็นสมบัติแผ่นดิน ตามความปรารถนาของป้าอ๊อดและที่ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับหนังสือพิมพ์แนวหน้าเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2557 ซึ่งเจตนารมณ์ดังกล่าวของป้าอ๊อดยังคงแน่วแน่ มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงถึงแม้ชีวิตจะหาไม่ ซึ่งบรรดานักสะสมภาพวาดผลงานศิลปะทั้งหลายก็ต่างทราบเรื่องดังกล่าวนี้เป็นอย่างดี

5.ระหว่างไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทในคดีแพ่ง มีเหตุการณ์เกิดขึ้น กล่าวคือ คุณดอยธิเบศร์ได้ไปแจ้งความที่สน.บางชันว่าภาพวาดลุงหวันหายจำนวน 10 ภาพได้หายไปจากบ้านเกษราซึ่งผู้ถือกุญแจงคือ ป้าอ๊อด และได้อายัพภาพวาดดังกล่าวตามแกลเลอรี่ต่างๆ เมื่อมีการสอบสวนเจ้าของผู้ครอบครองภาพวาดทั้งหมดแล้ว ปรากฎว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองวาดที่คุณดอยธิเบศร์แจ้งความว่าหายนั้น ได้ภาพวาดมาในระหว่างที่ลุงหวันยังมีชีวิตอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกับป้าอ๊อด และบ้านเกษราเลย เป็นเหตุให้คดีนี้พนักงานสอบสวนได้เสนอรายงานต่อพนักงานอัยการและงดการสอบสวนในที่สุด

6.ต่อมาปรากฎว่า คุณดอยธิเบศร์ได้แจ้งความเพิ่มเติมว่ามีภาพวาดหายจำนวนมากถึง 113 ภาพ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวปรากฎสู่สาธารณชน สร้างกระแสข่าวให้ใหญ่โตให้เป็นที่สนใจ โดยบุคคลภายนอกผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ เป็นเรื่องส่วนบุคคล

7.เนื่องจากคดีการฟ้องแบ่งทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลในเดือนมกราคม 2562 กรณีที่มีการกล่าวหาว่าภาพได้สูญหายถึง 113ภาพนั้น ป้าอ๊อดไม่ทรายรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้นเพราะหลังจากลุงหวันจากไปป้าอ๊อดไม่สามารถเข้าบ้านดำได้อีกแล้ว แต่ทรัพย์สินทุกอย่างที่อยู่ภายในบ้านเขาควาย และบ้านเกษรา ยังคงเหมือนเดิมและได้มีการบันทึกภาพไว้ แม้กระทั้งเฟรม แปรง พู่กัน น้ำมันสน สี ก็ยังอยู่ที่เดิมไม่มีการเคลื่อนย้ายไปจากชีวิตของป้าอ๊อดเลย

8.หากศาลพิพากษาอย่างไร ป้าอ๊อดน้อมรับคำตัดสินและพร้อมปฏิบัติตามในคำตัดสินของศาล ดังเช่นที่ผ่านมา และก็จะยืนหยัดด้วยความภาคภูมิใจว่าชีวิตนี้ได้ใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกับลุงหวันจนลมหายใจสุดท้าย และรอคอยวันที่ลุงหวันกลับมารับป้าอ๊อดจากดวงจิตหนึ่งสู่ดวงจิตหนึ่งของผู้รอคอย

สุดท้ายนี้ ป้าอ๊อดเป็นผู้หญิงชราคนหนึ่งวัย 70 ปีและอยู่ตัวคนเดียวลำพัง ณ บ้านรั้วเขาควาย ขอกราบขอบพระคุณ และขอคาราวะผู้ที่สะสมตลอดผู้ที่ชื่นชมผลงานศิลปะของลุงหวันเสมอมา และต้องกราบขอโทษผู้สะสมภาพของลุงหวันในขณะที่ลุงหวันยังมีชีวิตอยู่ ต้องเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จากกลุ่มบุคคลบางคน”

ขอคาราวะด้วยใจจากผู้ที่สูญเสีย

ทิพย์ชาติ วรรณกุล

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ