Program Online

(คลิปข่าว) ยื้อ ม.44 ฟัน 2 มหาวิทยาลัยดังภาคเหนือ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

(คลิปข่าว) ยื้อ ม.44 ฟัน 2 มหาวิทยาลัยดังภาคเหนือ

ปัญหาธรรมาภิบาลในรั้วอุดมศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้ความสำคัญ ถึงขนาดออกคำสั่งตามมาตรา 44 เป็นคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 ให้สามารถใช้อำนาจเบ็ดเสร็จกับมหาวิทยาลัยที่มีปัญหาการบริหารงานภายใน โดยเฉพาะปัญหาธรรมาภิบาล การทุจริตคอร์รัปชั่น การฟ้องร้องกันระหว่างคณาจารย์กับผู้บริหาร และการไม่สามารถตรวจสอบถ่วงดุลกันได้ระหว่างผู้บริหารมหาวิทยาลัย กับสภามหาวิทยาลัย หรือที่เรียกกันว่า "สภาเกาหลัง" ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามในหนังสือเห็นชอบให้ใช้มาตรา 44 กับมหาวิทยาลัยของรัฐเพิ่มอีก 2 แห่ง แต่ล่าสุดกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนทำให้บรรดาคณาจารย์บางส่วนของทั้ง 2 มหาวิทยาลัย เตรียมยื่นหนังสือทวงถามกับรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหมอธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่าได้ลงนามในหนังสือขอใช้อำนาจหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 หรือ คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 39/2559 กับมหาวิทยาลัยของรัฐ 2 แห่ง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ส่งหนังสือเสนอไปยัง คสช.แล้ว แต่หลังจากวันนั้น ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทาง คสช.มีรายงานว่า เรื่องการใช้อำนาจตามมาตรา 44 กับมหาวิทยาลัยของรัฐทั้ง 2 แห่ง ถูกส่งถึงรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย คุณวิษณุ เครืองาม ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า โดยมีข่าวว่ารองนายกฯวิษณุ ได้สั่งการให้ทีมกฎหมายพิจารณา โดยเฉพาะประเด็นความเหมาะสมของการใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ในช่วงนี้ เพราะอยากให้ใช้กระบวนการปกติในการแก้ไขปัญหามากกว่า ที่สำคัญช่วงนี้ยังเป็นช่วงปลายรัฐบาล คสช. และนายกรัฐมนตรีกำลังเดินทางเยือนยุโรป การมีคำสั่งตามมาตรา 44 ซึ่งเป็นอำนาจพิเศษของคณะรัฐประหาร อาจสุ่มเสี่ยงต่อการถูกวิจารณ์ได้จากทั้งในประเทศและนอกประเทศสาเหตุที่รัฐมนตรีศึกษาฯต้องส่งเรื่องไปให้รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายพิจารณา เพราะตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 แม้จะให้อำนาจเต็มกับรัฐมนตรีศึกษา ในการเข้าไปแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลมหาวิทยาลัยได้อย่างเบ็ดเสร็จ ตามการเสนอของคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ กกอ. ทั้งสั่งผู้บริหารชุดเดิมยุติการปฏิบัติหน้าที่ และส่งคณะผู้บริหารชุดใหม่เข้าไปทำงานก็ตาม แต่ในข้อ 12 ของคำสั่งเดียวกัน การจะใช้อำนาจนั้นได้ ต้องให้ คสช.ประกาศกำหนดชื่อมหาวิทยาลัยที่ถูกบังคับตามมาตรา 44 เสียก่อนการยังไม่ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลมหาวิทยาลัย แม้จะมีเสียงขานรับจากบรรดาผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาที่มีอำนาจอยู่ แต่ประเด็นนี้ก็ถูกมองจากคนที่ทำงานตรวจสอบปัญหาธรรมาภิบาลมาตลอด ว่าความล่าช้าเช่นนี้ จะส่งผลต่อบุคคลากรของมหาวิทยาลัยที่ออกมาร้องเรียนการทุจริตของผู้บริหาร เพราะมีแนวโน้มถูกกลั่นแกล้งจากผู้บริหารและสภามหาวิทยาลัยที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จตามกฎหมายของตัวเอง เรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังที่เรียกว่า "สภาเกาหลัง" จนไม่สามารถแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลได้ จน คสช.ต้องใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ออกคำสั่งที่ 39/2559 แต่สุดท้ายกลับไม่ยอมใช้อำนาจนั้นเสียเองปัญหาธรรมาภิบาลอุดมศึกษายังไม่จบ เพราะมีมุมมองความเห็นที่ขัดแย้งกันในหลายมิติ สัปดาห์หน้าล่าความจริงจะมีความคืบหน้ามานำเสนออย่างต่อเนื่อง เพราะมหาวิทยาลัยคือต้นธารของการผลิตบุคคลากรออกมาพัฒนาประเทศชาติ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ