(คลิปข่าว) จับสึกพระบวชมาหลายพรรษามั่วเสพยาบ้า

เมื่อเวลา 10.00 นวันที่ 9 พ.ค.พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ รับแจ้ง จากชาวบ้านว่ามีพระสงฆ์ ทำตัวไม่เหมาะสมกับสมณะเพศ มั่วสุมชาวบ้านเสพยาบ้าที่บริเวณป่าไผ่ใกล้บ้านเลขที่ 44 หมู่ 9 บ้านแสนประเสริฐ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ สว.สส.ร.ต.อ.ไพบูลย์ พรมมาหล้า รอง สว.สส.พร้อมพวกเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พบชายห่มจีวร สีเหลืองนอนอยู่บนเปลด้านล่างของบ้านดังกล่าว จึงเข้าไปสอบถามพูดจาวกวน ไม่รู้เรื่องคล้ายคนเมาสารเสพติด จึงถามหาใบสุทธิประจำตัวพระ บอกว่าลืมอยู่ที่วัดตรวจค้นในอังสะที่สวมใส่ พบอุปกรณ์เสพยาบ้าจำนวนหลายรายการ เช่นไฟแช็ค จำนวน 6 อัน กระดาษฟอยล์ 2 แผ่น บัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อนายสงกรานต์ หล้าน้อย อายุ 36 ปีบ้านเดิมอยู่ เลขที่ 31 หมู่ 19 ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ถุงพลาสติกมีเศษยาบ้าติดอยู่จำนวน 5 ชิ้นและหลอดไม้ไผ่ใช้สำหรับใส่ยาบ้าเสพ ตรวจปัสสาวะพบเป็นบวก อ้างว่าไม่ได้เสพยาบ้าแต่ได้กินยาแก้ไอและยาแก้ไข้หวัดทิฟฟี่ จากนั้นได้ควบคุมตัวอดีตพระสงกรานต์ ไปยังป่าช้า บ้านหนองนาแซง หมู่ที่ 5 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ซึ่งอ้างว่าได้จำวัดอยู่ที่นั่น ตรวจค้นจุดที่พักนอนพบอุปกรณ์เสพยาบ้าอีกมี ไฟแช็คปรับแต่งแล้วสำหรับไว้เสพยาบ้า 10 อัน หลอดไม้ไผ่จำนวน 60 หลอด และใบสุทธิระบุชื่อพระสงกรานต์ ขันติธัมโมจึงยึดไว้เป็นของกลางและควบคุมตัว ไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลบึงกาฬพบว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าเจือปนอยู่จริง จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตควบคุมตัวไปให้พระครูสมพร เจ้าอาวาสวัดศรีโสภณธรรมทานทำการสึกจากความเป็นพระ 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าที่นั่งรออยู่หน้ากุฏิเพื่อให้พระครูลงมาทำพิธีลาสิกขาให้ปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์ วุ่นวายขึ้น เมื่ออดีตพระสงกรานต์ได้คว้าชายจีวรรัดคอของตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้กระโดดเข้าไปคว้าแกะมือออกจากชายจีวรทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด หลังจากกล่าวคำลาสิกขาจบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงควบคุมตัวไปส่ง ร.ต.อ.วิษณุ คารมย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ ควบคุมตัวสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ผู้สื่อข่าวจึงสัมภาษณ์นายสงกรานต์ว่าเหตุใดจึงจะใช้ จีวรรัดคอเพื่อฆ่าตัวตายหนีความผิด อดีตพระสงกรานต์ รับสารภาพว่าเบื่อโลกไม่อยากอยู่แล้ว บวชมานานเสียเปล่ากว่า 10 พรรษาแต่ก็ยังละทิ้งกิเลสตัณหาไม่ได้ จึงขอลาตายดีกว่า เนื่องจากละอายญาติโยมที่เคารพนับถือตนอยู่ จากนั้นได้ควบคุมตัวเข้าห้องขังโดยได้จัดเวรยามดูแลอย่างใกล้ชิดเกรงผู้ต้องหาจะฆ่าตัวตายตามที่ตั้งใจเอาไว้ก่อนหน้านี้.