22 ก.พ. 59 รายการ “คม ชัด ลึก” สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี เชิญ 'ฟองสนาน จามรจันทร์' โหรสมัครเล่น 'ภิญโญ พงศ์เจริญ' นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ มาพูดคุยเรื่อง “ดาวมฤตยูทับดวงเมือง?” ดำเนินรายการโดย 'โมไนย เย็นบุตร'
ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า ในเรื่อง 6 มีนาคม ดาวมฤตยูเคลื่อนมาดีขึ้นหรือแย่ลงนั้น ก็เป็นไปได้ทั้งสองด้าน ดาวมฤตยูนับตั้งแต่มีกรุงรัตนโกสินทร์นับเป็นครั้ง 3 ที่เคลื่อนมาราศีเมษที่เป็นดวงเมือง ซึ่งดาวมฤตยูอยู่ไกลจากดาวเสาร์ใช้เวลาโคจรนาน 1 ราศี ใช้เวลา 7 ปี แล้ว 12 ราศี 84 ปี ทั้งนี้ในปี พ.ศ.2392 ดาวมฤตยูก่อนเข้ามาหนึ่งวันเกิดอหิวาตกโรคระบาดในพระนคร ตอนนั้น 4 มิถุนายน คนในพระนครตายไป 3 หมื่นกว่าคน วัดในพระนครเป็นที่ไว้ศพจนเผาไม่ทัน จนกระทั่งวัดสระเกศมีแร้งลงกลายเป็นตำนาน สอง เรื่องผู้หลักผู้ใหญ่จะเสีย ก็มีเจ้าพระยาบดินทร์เดชาถึงแก่อนิจกรรม ต่อมา พ.ศ.2394 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต และในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ก็มีการปฏิรูปประเทศหลายด้าน ส่วน 4 กรกฎาคม 2475 ดาวมฤตยูกำลังเข้ามา คณะราษฎร์ชิงยึดอำนาจนำไปสู่การปกครองแบบใหม่ และช่วง 2475 ถึง 2482 มีการเปลี่ยนมากมาย
“มีนาคม 2560 ดาวพฤหัสเคลื่อน ดาวเสาร์อยู่ราศีธนู การเลือกตั้ง 2560 เป็นส่วนหนึ่งของมฤตยู การเปลี่ยนแปลงมีหลายด้านทั้งกฎหมาย การเมือง การเลือกตั้งก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่รุนแรง” นายภิญโญ กล่าว และย้ำว่า การเมืองหลังจากนี้ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน การเลือกตั้งจะเกิดขึ้น ส่วนเลือกตั้งแล้วจะมีปัญหาใหม่ตามมาอีกหรือไม่ต้องกลับไปวิเคราะห์ตามสถานการณ์
ฟองสนาน จามรจันทร์ นักโหราศาสตร์ กล่าวว่า คนเรียนโหราศาสตร์ในเรื่องดีและร้ายก็ต้องดูเป็นกรณีไป ต้องแยกเรื่องกัน การมาของดาวมฤตยูบ่งบอกชัดเจนทาง อ.ภิญโญ เขียนตั้งแต่ปี 2558 สามารถทำนายได้ เราต้องดูลัคนาดวงเมืองตอนตั้งรัตนโกสินทร์ตั้งเสาหลักเมืองเพิ่งพบดาวมฤตยูครั้งแรก ฉะนั้นยังไม่มีการใช้ครั้งนั้น พอมาถึงยุคหลังก็เอามาใช้ครั้งแรก ทำให้เราตรวจสอบได้ พบดาวมฤตยู 3 ดวงเมือง กว่าจะเดินมาราศีละ 7 ปีมาทับลัคนาดวงเมืองรอบแรกปลายรัชกาลที่ 3 กับช่วงรัชกาลที่ 4
"ดาวมฤตยูนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่เมืองจริง แต่นำสู่การเปลี่ยนในสิ่งที่ดีก็มี มารอบแรกไม่ใช่มีแต่เรื่องร้าย หนึ่ง ห่าปีระกา สอง เสียดินแดนครั้งที่หก รัชกาลที่ 3 สวรรคต และรัชกาลที่ 4 ขึ้น มีการปฏิรูปศาสนามากมาย ซึ่งรัชกาลที่ 1 ทรงรู้ล่วงหน้าตั้งแต่ตั้งเสาหลักเมือง คำนวณไว้หมดแล้วล่วงหน้า 150 ปี ถามว่าครั้งนี้จะเปลี่ยนแบบครั้งแรก หรือเปลี่ยนเหมือนครั้งที่สองหรือไม่ แต่สำหรับในครั้งที่กำลังจะมาเป็นแบบครั้งแรกมากกว่าที่เน้นการปฏิรูปเป็นหลัก
“คราวนี้ไม่ถึงกับมีการชนกันแรงเหมือนปี 2475 ทั้งสองดวงหัวหน้าดาวดี ดาวร้าย เช็กแล้ว มฤตยูอยู่ถึง 2565 ไม่มีเกณฑ์เปลี่ยนแปลงแบบขนหัวลุก แต่มีเปลี่ยนแน่นอน” ฟองสนาน กล่าว
ฟองสนาน กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง หรือองค์กร จะต้องเปลี่ยนแปลงถึงระดับโครงสร้าง ไม่ใช่เพียงแต่เปลือกนอก ตั้งแต่วันเกิดดวงเมือง หลัง 21 เมษายน หรืออาจเริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเลยก็ได้ ดาวจะเดินผิดปกติหลายดวง ประเทศไทยจะเริ่มถูกบีบจากหลายด้าน เช่น เริ่มมีคนเขย่ามาจากต่างประเทศว่าจะขอเจรจากับรัฐบาล หรือปัญหาวุ่นวายเกี่ยวกับวงการพระพุทธศาสนา ว่าด้วยการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งกรณีสมเด็จพระสังฆราชนั้น ช่วงนี้ดาวพฤหัสเดินถอยหลัง เรื่องนี้จึงยังไม่มีความคืบหน้าจนกว่าดาวพฤหัสจะเดินหน้า ซึ่งตรงกับวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เมื่อดาวพฤหัสเดินหน้าแล้วปัญหาต่างๆ จะยุติ เพราะดาวพฤหัสยังต้องกุมกับราหู ซึ่งปีนี้กุมกันถึง 3 ครั้ง จึงทำให้ปัญหาไม่จบง่ายๆ สิ่งใดที่กำลังดำเนินการอยู่ก็จะต้องกลับมาแก้ไขใหม่ ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ไป 3 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม นักพยากรณ์ทั้งสองวิเคราะห์ในตอนท้ายว่า หลังจากวันที่ 7 สิงหาคมนี้ เหตุการณ์ต่างๆ น่าจะเริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อดาวพฤหัสแยกจากราหู ขณะเดียวกันเมื่อมฤตยูมาจะอยู่ถึง 7 ปี ดังนั้นจะต้องตั้งจิตอธิษฐานว่าภายใน 7 ปีนี้จะทำในสิ่งดีๆ การสวดมนต์ก็เป็นสิ่งดีที่ควรทำและย้ำว่าก่อนถึง 7 สิงหาคม ทุกคนอย่าท้อแท้ที่จะสู้กับปัญหา
