เคทีซีมีดีที่ 'พ่อหมอ'

เคทีซีมีดีที่ ‘พ่อหมอ’

 

                ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทยฯ หรือ KTC ดำรงตำแหน่งนี้มายาวนานร่วม 8 ปี

                เดือนพฤศจิกายน 2562 ระเฑียร ศรีมงคล จะมีอายุครบ 60 ปี นั่นเท่ากับว่าจะเหลือวาระการดำรงตำแหน่งอีกแค่ 5 เดือนเท่านั้น

                บริษัทลูกของธนาคารกรุงไทยผู้สามารถทำงาน และทำเงินได้อย่างดีเยี่ยมมาตลอด จำเป็นอย่างยิ่งต้องหา “ผู้บริหารใหม่” มาทำหน้าที่ดูแลบริษัทแห่งนี้ให้โลดเล่นต่อไป

                พรายมาบอกพรานฯว่าปัญหาใหญ่ขณะนี้คือ จะหาใครที่ฝีมือดี บริหารงานเก่ง บริหารคนเป็นเลิศ ที่เทียบเท่าหมอระเฑียรที่ถือเป็นเจ้ายุทธภพนี่สิมันยาก...

                ระเฑียรมีวิถีที่ประหลาด พรานฯ เคยถามว่าจบการศึกษา แพทยศาสตรบัณฑิต (ศิริราช) มหาวิทยาลัยมหิดล ทำไมไม่เป็นหมอ มาทำงานการเงินอย่างไร

                หมอระเฑียรบอกว่า ไม่ชอบ เคยทำงานเป็นหมอรักษาโรคทั่วไปพักหนึ่ง พอไปเรียนจบบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชอบจึงหันมาทำงานด้านการเงิน

                ผ่านการทำงานที่ธนาคารกรุงศรี, บงล.เอกธนาฯ ธนาคารนครหลวงไทย ก่อนมาเคทีซี เรียกว่า “วินิจฉัยเก่ง”

                ตลอดเวลาที่หมอระเฑียรบริหารเคทีซี มักจะสร้างเซอร์ไพรส์ในด้านการตลาด และสร้างผลประกอบการที่ดีให้กับเคทีซีอยู่เสมอ เฉพาะปันผลที่เคทีซีนี่หมอจ่ายให้ผู้ถือหุ้นปีละ 2,200-2,500 ล้านบาทเป็นอย่างตํ่า หนำใจ

                เขาให้เวลาไม่ถึงปีผ่าตัดเคทีซีที่กำลังดิ่งลงเหวให้ฟื้นตัว พลิกฟื้นเคทีซีให้กลับมาอย่างแข็งแกร่งอย่างมาก ผลประกอบการดีขึ้นๆ กำไรเพิ่มมากขึ้นทุกปี

                วันที่ 31 มีนาคม 2562 เคทีซีมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 76,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%

                มีลูกหนี้การค้าสุทธิรวม 75,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

                มีลูกค้าผู้ถือบัตรรวม 3.3 ล้านบัญชี เติบโต 8.2% เป็นพอร์ตลูกค้าบัตรเครดิต 2,348,990 บัตร ขยายตัว 6.4% ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 48,413 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาด 12.5%

                ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตร 49,091 ล้านบาท เติบโต 10.4% ขณะที่ทั้งตลาดบัตรเครดิตเติบโตแค่ 8.6%

                มีหนี้เสียบัตรเครดิตแค่ 1.04% ลดลงจาก 1.14% ขณะที่ทั้งอุตสาหกรรมมีหนี้เสียแค่ 2.02%

                มีสินเชื่อบุคคล 967,059 บัญชี ขยายตัว 12.8% ยอดลูกหนี้สินเชื่อ 26,483 ล้านบาท

                ไตรมาสแรกของปี 2562 รายได้รวมสูงกว่าค่าใช้จ่าย โดยทำรายได้เพิ่มขึ้น 9% เท่ากับ 5,574 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ย (รวมรายได้ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) ของธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเพิ่มที่ 9% และ 10% เท่ากับ 3,267 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียม 1,235 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 1,072 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวมแค่ 3,590 ล้านบาท

                ทีมงานหมอทำกำไรให้กับองค์กร ชนิดที่หลายคนแอบอิจฉา...

                ล่าสุดหมอระเฑียรไปไกลขยับมาทำธุรกิจนาโน-พิโกไฟแนนซ์ และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถ โดยร่วมทุนกับธนาคารแม่ ภายใต้ชื่อ บริษัทเคทีซี นาโน จำกัด และบริษัทเคทีซี ฟิโก (กรุงเทพ) จำกัด เพื่อปล่อยกู้ให้คนตัวเล็กที่กระจายอยู่ทั่วไปแลกกับการคิดดอกเบี้ยได้สูงลิ่วถึง 36% แม้จะมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น

                เมื่อทำคลอดเสร็จหมอจะเกษียณคราวนี้ก็เป็นเรื่องสิครับ พรานฯทราบมาว่า บอร์ดธนาคารกรุงไทยคุยเรื่องนี้มา 2-3 รอบ ควานหามือดีมาหลายคนยังไม่ถูกใจ เพราะหาใครเทียบหมอลำบาก

                แว่วว่า มีคนไอเดียบรรเจิดหาวิธี “รั้งตัวหมอ” เกษียณก็เกษียนไปสิ เสนอตั้งเป็นประธานกรรมการให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ดีกว่ามอบตำแหน่งประธานกรรมการให้กับรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย ที่ถูกส่งไปนั่งกินเงินตำแหน่งดีกว่าเป็นไหนๆ

                ทำเอาบรรดาผู้บริหารกรุงไทย หลายคน โดยเฉพาะคนบางคนที่จะเกษียณอยู่ ค้อนเอาหลายตลบ...555

                เพราะตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัทบัตรกรุงไทยฯนั้นไฉไล ไม่เบา เฉพาะค่าตอบแทนพิเศษกรรมการไม่รวมเบี้ยเลี้ยงค่าตอบแทนรายเดือนตกประมาณ 21-22 ล้านบาท...อร่อย...ยกร่อง ฟักทองแตงไทย...

                บอร์ดที่นี่มีไม่มากแค่ 7-8 คน ถ้าตอบแทนเช่นนั้นก็เอา 3 กิโลคูณเข้าไป สบายบรื๋อ สะดือจุ่น...

                ใครได้เท่าไหร่...พรานฯไม่อยากบอก ไปหาเอาเอง...