ข่าว

วิกฤติราคาปาล์ม โจทย์ใหญ่รัฐบาลลุงตู่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สถานการณ์ราคาปาล์มเข้าสู่ช่วงวิกฤติสุดในรอบหลายสิบปี ล่าสุดราคาที่สหกรณ์ซึ่งสมาชิกขายได้อยู่ที่ 1.60 บาทต่อ กก.

คอลัมน์อยู่บนภู ฐานเศรษฐิจ วันที่ 28-30 เม.ย.2562 โดย... กระบี่เดี่ยวดาย

 

วิกฤติราคาปาล์ม

โจทย์ใหญ่รัฐบาลลุงตู่

 

            สถานการณ์ราคาปาล์มเข้าสู่ช่วงวิกฤติสุดในรอบหลายสิบปี เมื่อราคาดิ่งเหวสุดๆจาก 2.20 บาทต่อกก. ลดลงรายวันไปอยู่ที่ 1.90 บาท 1.80 บาทและล่าสุดราคาที่สหกรณ์ซึ่งสมาชิกขายได้อยู่ที่ 1.60 บาทต่อกก.เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2561 หมายความว่าเกษตรกรที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ต้องไปขายที่ลานเทราคาต่ำกว่านี้ 

 

วิกฤติราคาปาล์ม โจทย์ใหญ่รัฐบาลลุงตู่

 

วิกฤติราคาปาล์ม โจทย์ใหญ่รัฐบาลลุงตู่

 

            ซ้ำร้ายไปกว่านั้นลานเทบางแห่ง หยุดรับซื้อปาล์มทำให้เห็นรถบรรทุกปาล์มต่อคิวยาวเหยียดเข้าโรงงาน โดยเกษตรกรรายย่อยบางรายที่ตัดปาล์มสุกไปลงมาแล้ว จำเป็นต้องหาที่ขายแม้ขาดทุนแสนสาหัส แต่ยังหาที่ขายไม่ได้

              “ลานเทหยุดซื้อเพราะ ราคามีแนวโน้มดิ่งลงทุกวัน​ ซื้อไว้เมื่อวาน ​1.80 บาท ​รวบรวมนำส่งโรงงานพรุ่งนี้​โรงงานรับซื้อ ​1.60 บาท​ขาดทุนทันที ​0.20 บาท​ หากลานเทรับซื้อสัก​50​ตัน​เท่ากับขาดทุนในวันนั้น​ 10,000 บาท ​วันละหมื่นๆ​แถมรถติดคิว​ปาล์มร้อนน้ำหนักลดสูญเสียอีก ​และถ้าโรงงานก็จะหยุดรับซื้ออีก ​อ้างเครื่องเสียบ้าง ​ ทำสต๊อกล้น ​ปาล์มเป็นพืชที่ตัดจากต้นแล้ว ต้องขายเก็บไว้ไม่ได้ ​ไม่ตัดก็ร่วง สุกหล่นลงมางอกเต็มสวน ต้องตัดทิ้งเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก”

            เกิดความปั่นป่วนในวงการปาล์ม ซึ่งสถานการณ์แบบนี้เขาเรียกกันว่า “จับขาลง”เหมือนกับสถานการณ์ราคาพืชเกษตรอื่น เช่น ข้าวที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเมื่อคราวราคาขาลง ผู้ซื้อเกิดความรู้สึกกลัวว่าราคาจะลงไปอีก จึงเลี่ยงด้วยการหยุดซื้อไปก่อน

            ​สถานการณ์ที่ว่านี้เกิดจาก 2-3 ปัจจัยดังที่ว่าไปเมื่อตอนที่แล้ว ทั้งการนำเข้า การห้ามส่งออกในช่วงก่อนหน้านี้ สต็อกส่วนเกิน การปรับมาตรฐานอาหารใหม่ของอียูล้วนเป็นปัจจัยกระหน่ำปาล์มขาลงรุนแรงขึ้น ประกอบกับการวิเคราะห์ประเมินผลผลิตล่าสุดของกระทรวงเกษตรฯร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ว่าผลผลิตปีนี้ดี เมื่อผสมผสานกับสต็อกที่แครี่โอเวอร์จากปีก่อนมาร่วม 3 แสนตัน

            รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน ต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน โดยประเมินสถานการณ์ผลผลิตที่แน่นอนและแถลงข้อเท็จจริงให้สาธารณะทราบ ไม่ให้เกิดการคาดการณ์เองจนสร้างความกังวลให้กับตลาด

            นอกจากนี้ต้องออกมาตรการสั่งห้ามนำเข้าโดยเด็ดขาดทันที เพราะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วนที่กระทบตลาดภายในอย่างร้ายแรง น่าจะสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ผิดข้อตกลงระหว่างประเทศที่ผูกพันไว้

            ถัดมาให้ปลดล็อกการส่งออกหรือรัฐอาจสนับสนุนส่งเสริมให้มีการส่งออก โดยพิจารณาแต้มต่อให้กับเอกชนให้ฟื้นตลาดกลับมาให้ได้อีกครั้ง แต่การให้นั้นถ้าจำเป็นต้องทำ ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ซึ่งมาตรการนี้อาจต้องใช้เวลา แต่ต้องดำเนินการเพราะมีภัยที่เกิดกับชาวสวนปาล์มรออยู่ข้างหน้า

            นอกจากนี้ยังต้องขอให้กระทรวงพลังงานออกหน้า เป็นเจ้าภาพหรือลงแรงให้มากกว่านี้ในการจัดการปัญหา ทั้งร้องขอให้ บริษัท ปตท.จำกัด และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ซีพีโอเพิ่มขึ้น

            กระทรวงพลังงานควรส่งเสริมให้ใช้ บี100 อย่างจริงจัง โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องเข้ามาร่วมด้วยในการเจรจากับค่ายรถยนต์สนับสนุนส่งเสริมให้ใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 100

            อย่างไรก็ดีกรณี บี 100 นั้นรัฐบาลต้องไล่ดูปัญหาให้ละเอียด อันเนื่องจากมีข้อมูลที่ปรากฎว่า ปีนี้น้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอ จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 2.1 แสนตัน ขณะที่สต็อกซีพีโออยู่ประมาณกว่า 3 แสนตัน แต่สถานการณ์ขณะนี้ มีการหาซื้อบี 100 ในภาคใต้ต้องไปไล่ซื้อหาจากโรงงานในภาคกลาง

            โรงงานสกัดปาล์มน้ำมันบางรายยังรู้สึกงงๆกับเหตุการณ์ “ชาวสวนแจ้งว่าภาคใต้หาซื้อบี 100 ไม่ได้แล้วรู้สึกแปลกใจ เพราะภาคใต้มีโรงงาน 3-4 ราย มีกำลังการผลิต 25% หรือคิดเป็น 2 ล้านลิตรต่อวัน จาก 12 โรงงานทั่วประเทศ ที่มีกำลังการผลิตรวม 7-8 ล้านลิตรต่อวัน แต่ทีนี้บี 100 ขาดหนักไม่แน่ใจว่าผู้ผลิตเดินเต็มกำลังเครื่องจักรหรือยัง หรือไม่พอเพราะเครื่องจักรมีปัญหา หรือมีการใช้มาก  แต่ทำไมราคาผลปาล์มไม่ขึ้น แล้วทำไมไปเป็นคอขวดอยู่ที่ภาคใต้”

            นอกจากไล่ตามดูว่าใครเล่นกลกับบี 100 แล้ว รัฐยังต้องสนับสนุนส่งเสริมการใช้อย่างเต็มที่ ไม่ให้เป็นเหมือนทุกวันนี้ที่ชาวสวนเขาลุกขึ้นมาแก้ปัญหาเองด้วยการสร้างจุดแบ่งปันบี 100 ย้อนไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เดิมราคาบี 100 ราคาอยู่ที่ 9 บาทต่อกิโลกรัม ราคาผลปาล์ม ราคาอยู่ที่ 1.80 บาทต่อกิโลกรัม

            ราคาวันที่ 19 เม.ย.62  ราคาบี 100 ราคาอยู่ที่ 21 บาทเศษต่อกิโลกรัม ราคาผลปาล์มอยู่ที่ 2.10 บาทต่อกิโลกรัม

            หากในอนาคต บี 100 ราคาขยับเท่ากับราคาดีเซล อยู่ที่ 26.27  บาทต่อกิโลกรัม ราคาผลปาล์มของเกษตรกร 4.50 บาทต่อกิโลกรัม ชาวสวนเขายังบอกเลยเมื่อถามว่าจะมีการใช้บี 100 กันต่อไหมถ้าขึ้นไปเทียบดีเซล ทุกคนพร้อมใจว่าจะใช้กันต่อไป

            “ทุกวันนี้ใช้บี 100 วันละ 2.5-3.5 แสนตัน/วัน คิดคำนวณเป็น 1 เดือน จะใช้  7.75-10.8 ล้านตัน”

            อันที่จริงการแก้ปัญหาราคาปาล์ม จะว่าเป็นโจทย์ยากของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสียทีเดียวก็ไม่ถูก เพียงแต่รัฐบาลลุงตู่ต้องกล้าใช้อำนาจ ในการขจัดเหลือบที่หากินกับชาวสวนให้ได้ บูรณาการหน่วยงานในการปลดล็อกกฎระเบียบบางประการ สร้างสมดุลให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบ ให้หน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่แก้ปัญหา เดินพร้อมกัน ทางเดียวกัน

            เร่งทำ!! ก่อนที่ชาวสวนปาล์มจะล้มหายตายจากกันไปมากกว่านี้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ