ข่าว

ลุงตู่-พรรคการเมืองฟังทางนี้!! ทางเลือกแทน พ.ร.บ.ข้าว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การนำเสนอ พ.ร.บ.ข้าวยังมะรุมมะตุ้ม มีทั้งเสียงคัดค้าน ก่นด่าระงมไปทั่ว

คอลัมน์อยู่บนภู ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3447 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 24-27 ก.พ.2562 โดย...กระบี่เดียวดาย

 

 

ลุงตู่-พรรคการเมืองฟังทางนี้!!

ทางเลือกแทน พ.ร.บ.ข้าว

 

            การนำเสนอ พ.ร.บ.ข้าวยังมะรุมมะตุ้ม มีทั้งเสียงคัดค้าน ก่นด่าระงมไปทั่ว เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บางส่วนที่ขยันขันแข็งเป็นพิเศษ ยังคงมีความพยายามในการผลักดันร่างพ.ร.บ.ที่แก้ไขและตัดออกหลายมาตราในชั้นกรรมาธิการเข้าสู่การพิจารณาวาระ 3 วันที่ 26 ก.พ.นี้  

            ร่างมีการแก้ไขตัดของเดิม เพิ่มของใหม่ขึ้นมามาก จนแทบไม่มีร่องรอยร่างเดิม ทำให้มีปัญหาว่าตรงกับหลักการที่เห็นชอบในวาระ 1 หรือไม่และหากมีการหยิบยกขึ้นมาในภายหลัง อันอาจมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายฉบับนี้ นอกเหนือจากประเด็นความซํ้าซ้อนกับกฎหมายที่มีอยู่แล้ว จึงไปสู่ข้อพิจารณาว่าเป็นกฎหมายที่มีความจำเป็นหรือไม่

            เมื่อกฎหมายซํ้าซ้อน ไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องตราร่างกฎหมายนี้ขึ้นมาให้ชาวนาหลายคนปวดใจแต่อย่างใด แล้วทำอย่างไรที่จะเป็นการช่วยชาวนาโดยไม่ต้องออกกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือพรรคการเมืองใดจะนำข้อเสนอ ความเห็นนี้ไปกำหนดนโยบายช่วงชิงคะแนนเสียงจากชาวนากันก็ได้ จะตะโกนบอกให้ดังๆ                   

            ผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญระดับครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเคยกล่าวให้ฟังว่าสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าว หาก “พันธุ์ดี ดินดี นํ้าดี บริหารจัดการดี” รับรองไม่มีขาดทุน ยุคสมัยนี้ก็เดินตามได้ โดยอาจเพิ่มเทคโนโลยีดีเข้าไปยิ่งติดปีกให้ข้าวไทยขจรขจายในตลาดโลก และราคาอยู่ในระดับชาวนาได้กำไร                    

            ลองดู ให้ลงพื้นที่ไปหาสักจังหวัดในภาคอีสานปลูกข้าวหอมมะลิก็ได้ ทำโมเดลข้าวขึ้นมาให้เป็นโมเดลข้าวยั่งยืนให้ครบวงจร โดยเริ่มที่การพัฒนาพันธุ์ การทดลองพันธุ์ การคัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ให้ได้ก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งไม่ต้องออกกฎหมาย แต่เป็นหน้าที่ของกรมการข้าวที่ต้องทำหน้าที่ในการพัฒนาพันธุ์อยู่แล้ว โดยต้องให้ได้ผลผลิตต่อไร่ที่สูงพอสมควรยิ่งถึง 1,000 กก.ต่อไร่ได้ยิ่งเป็นการดี เมื่อได้พันธุ์ดีแล้วหันมาวางโซนนิ่งพื้นที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เพาะปลูกให้ชัดเจน

            ไปดูต่อว่างานด้านข้าวอื่นๆทำอย่างไร ให้ประธาน รองประธานคณะกรรมการบริหารจัดการข้าวหรือ นบข. (มีอยู่แล้วทุกยุคสมัย)กระทั่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าฯในฐานะประธานนบข.จังหวัด ตั้งศูนย์มอนิเตอร์ราคาข้าวประจำจังหวัด โดยต้องมีข้อมูลราคาประจำวันทุกโรงสี ทุกตำบลในพื้นที่ โดยให้โรงสีชุมชนหรือโรงสีสหกรณ์ โรงสี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โค้ดราคาอ้างอิงซื้อขยับขึ้นเรื่อยๆ อันนี้ใช้ได้เวลาราคาผันผวนตกตํ่า โดยให้แต้มต่อกลุ่มผู้ซื้อ เช่น จัดการดอกเบี้ยตํ่าให้    

            หลังจากนั้นลองใช้กลไกกองทุนหมู่บ้าน สหกรณ์ รวมทั้งงบประมาณรัฐ จะเป็นกลางปีงบ

ประมาณปกติอะไรก็แล้วแต่ ตั้งขึ้นมา โดยหากหมู่บ้าน ตำบลใด ในพื้นที่เพาะปลูกข้าวหนาแน่น มีการเสนอของบเพื่อตั้งโรงสีชุมชนขนาดเล็ก ยุ้งฉางกลาง ลานตากกลาง ให้พิจารณาเป็นกรณีพิเศษทันที

            นอกจากนี้ให้ส่งเสริมชาวนา ชุมชน แปรรูปเอง ทำข้าวถุงแบรนด์ชุมชนออกจำหน่าย โดยหน่วยงานรัฐ กรมการพัฒนาชุมชน กรมพัฒนา ธุรกิจการค้า ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปให้ความรู้ แนะนำ ช่วยคิด ช่วยดีไซน์ หรือพัฒนาแอพพลิเคชันกลาง ที่ผู้นำชุมชนสามารถดึงวิธีการผลิตข้าวถุง บรรจุภัณฑ์ไปใช้ได้ทันที

            รัฐยังมีกลไกร้านค้าชุมชน 2 หมื่นร้านค้าและจะขยายเพิ่มขึ้น ลองคัดร้านค้าในพื้นที่ที่มีข้าวปริมาณมากให้เปิดรับเป็นศูนย์รวมออเดอร์ เช่น ร้านค้าชุมชนภาคใต้ต้องการสั่งซื้อตรงชาวนา กลุ่มชาวนา สหกรณ์ให้กดคำสั่งซื้อ จำนวน สถานที่ วิ่งไปที่ศูนย์รวบรวมออร์เดอร์ แล้วมีการจัดสรรออร์เดอร์ให้กระจายไปที่แหล่งผลิต โดยกรมการค้าภายใน องค์การคลังสินค้า (อคส.) ประสานพาณิชย์จังหวัด ค้าภายในจังหวัดเป็นเจ้าภาพอำนวยความสะดวกรับ-ส่งข้าว ดึงไปรษณีย์ไทยเข้าร่วมโครงการนี้

            ในการกำกับดูแลสร้างความเป็นธรรม ให้รมต.พาณิชย์สั่งการให้กรมการค้าภายในหรือหน่วยเฉพาะกิจพิเศษ ลงตรวจตราเครื่องชั่ง เครื่องวัดความชื้นประจำโรงสี ท่าข้าวสมํ่าเสมอ โดยไม่บอกล่วงหน้าและจับปรับเอาจริงเอาจัง เพื่อแก้ปัญหาโกงความชื้น โกงตาชั่ง

            พร้อมกับรัฐบาลส่งเสริมการตั้งตลาดนัดข้าวเปลือกระดับอำเภอ ให้เกิดการพบปะผู้ซื้อ ผู้ขาย พ่อค้าท้องถิ่น โรงสี ให้เกิดเป็นประจำทุกเดือนช่วงที่ผลผลิตเข้าสู่ตลาด 

            ด้านการส่งออกต้องดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยส่งเสริมผู้ส่งออก โรงสี ในการเปิดตลาดข้าวใหม่ๆ ในแอฟริกา ยุโรปตะวันออก ยังมีพื้นที่ต้องการบริโภคข้าวอยู่เยอะ แต่อาจไม่มีเงินเหลือพอในการจัดซื้อ ซึ่งเอ็กซิมแบงก์ต้องเข้ามาสนับสนุนสินเชื่อ แบงก์การันตีให้ผู้ซื้อใหม่ๆ แม้ตลาดราคาดี แต่ต้องส่งเสริมให้หาตลาดใหม่ตลอดเวลาเพื่อกระจายความเสี่ยง และต้องไม่ลืมบริหารค่าเงินไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปด้วย ไม่ให้สูญเสียความสามารถแข่งขันส่งออกของสินค้าเกษตร       

            ทั้งหมดมีกฎหมายรองรับและดำเนินการได้ทันทีอยู่แล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นต้องตรากฎหมายเพิ่มแต่อย่างใด ต้องเข้าใจว่าการตรากฎหมายออกใช้บังคับ โดยหลักคือเป็นเครื่องมือในการบริหารราชการเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อส่งเสริมอาชีพ หรือกิจการที่มีความสำคัญต่อสังคมหรือเศรษฐกิจ ต้องมีความชัดเจนไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง แต่ร่างฉบับนี้มีความไม่ชัดเจน มีลักษณะเป็นการควบคุมมากกว่าการส่งเสริมวงจรข้าว         

            สนช.ชุดนี้ก็กำลังหมดวาระลง หยุดใช้สมองคิดสักนิด แล้วจะเห็นว่าไม่มีความจำแป็นต้องขยันออกกฎหมายกันมาเลย!!!   

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ