"สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" สุภาพบุรุษ ที่แข็งแกร่ง-กล้าหาญ

ฐานโซไซตี ฉบับ 3417 หน้า 14 ระหว่างวันที่ 12-15 พ.ย.2561 โดย...ว.เชิงดอย

 

 

 

“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”

สุภาพบุรุษ

ที่แข็งแกร่ง-กล้าหาญ

 

          ในการเดินทางเยือนกรุงเซี่ยงไฮ้ และเมืองปักกิ่งของจีน ระหว่างวันที่ 3-8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของไทย และคณะ แม้จะไม่ยาวนานนัก แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่าง 2 รัฐบาลได้อย่างดีเยี่ยม  

           ระหว่างงานเลี้ยงต้อนรับ ธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี ที่ร่วมคณะไปด้วย และทราบว่า ดร.สมคิด จะไปเยี่ยมชมและขึ้นกำแพงเมืองจีน จึงทัดทานขึ้นว่า อากาศจะหนาวมาก และเกรงว่าท่าน “รองฯสมคิด” จะเหนื่อยเพราะทางขึ้นค่อนข้างชัน ทำเอา ดร.สมคิด เกือบเปลี่ยนใจ แต่เมื่อ “คนสนิท” บอกว่า มีสุภาษิตจีนกล่าวกันว่า “ลูกผู้ชายครั้งหนึ่งในชีวิตต้องขึ้นกำแพงเมืองจีน”          

          เมื่อได้ปะหน้ากับ หวัง หย่ง มือคุมเศรษฐกิจจีนคนสำคัญอีกคน ณ เรือนรับรองเตี้ยวหยูไถ หวัง หย่งที่ทราบว่า ดร.สมคิด ไปขึ้นกำแพงเมืองจีนมา จึงบอกว่า สุภาษิตจีนมีว่า “ผู้ชายที่ขึ้นกำแพงเมืองจีน เป็นผู้ที่กล้าหาญและแข็งแกร่ง” ดร.สมคิด จึงตอบกลับด้วยลีลาชั้นเซียนเช่นกันว่า “ผมขึ้นกำแพงเมืองจีนมาแล้ว 4 ครั้ง กำลังบอกท่านหวัง หย่ง ว่า ผมน่ะเป็นทั้งสุภาพบุรุษที่ทั้งแข็งแกร่งและกล้าหาญเลยทีเดียว” ต่างเป็นที่ถูกอกถูกใจในวงสนทนา สร้างเสียงหัวเราะให้กับคณะทั้ง 2 ฝ่าย          

 

  

          สำหรับหนึ่งในหัวข้อหารือระหว่าง ดร.สมคิด และ แจ็ค หม่า ผู้บริหารอาลีบาบากรุ๊ป ได้เสนอให้ “ดร.สมคิด” ลองอัดคลิปเพื่อเชิญชวนชาวจีนให้มาท่องเที่ยวเมืองไทย แต่ต้องเป็นคลิปสั้นๆ เพียงแค่ 20 วินาทีเท่านั้น เพื่อเผยแพร่ออกเครือข่ายของอาลีบาบา เมื่อมีข้อเสนอมาดังนั้น “ดร.สมคิด” ไม่รอช้า เพียงแค่ 2 เทก ก็ดำเนินการอัดคลิปอย่างที่ตั้งใจเสร็จแล้ว เรียกว่าทำได้ทุกอย่างจริงๆ...ชาวจีน 800 ล้านคนจะได้รับชมพร้อมกันในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ เชื่อมั่นได้เลยว่า ต้องเรียกรอยยิ้มและความประทับใจได้แน่นอน ด้วยถ้อยคำสั้นๆ ที่ว่า “ขอเรียนเชิญพี่น้องชาวจีนทุกคนได้พาครอบครัวไปเที่ยวเมืองไทยสักครั้ง คนไทยทุกคนพร้อมต้อนรับ และมอบความสุขให้แก่พี่น้องด้วยไมตรีจิตฉันพี่น้อง จงไถ่ อี้เจีย ฉิง” ซึ่งแปลว่า จีนและไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน

          รัฐบาล โดย ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงมาชัดเจนแล้วว่าไทม์ไลน์ของการเมืองไทยนับแต่นี้ไปจะเป็นไปดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 61 พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.จะเริ่มมีผลบังคับใช้ และภายในเดือนธ.ค. 61 ออกพ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งและเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว จะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันที จากนั้น กกต.จะประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง,รับสมัครส.ส. ซึ่งสอดคล้องกับการปลดล็อกทางการเมือง กำหนดเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 62 ส่วนช่วงเดือนมี.ค. 62 กกต.จะดำเนินการตรวจนับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์, การให้ใบเหลือง-ใบแดง, การเลือกตั้งซ่อม ก่อนที่วันที่ 8 พ.ค.จะเปิดประชุมรัฐสภา และมีการเลือกนายกฯ โปรดเกล้าฯ นายกฯ และตั้ง ครม.ใหม่ และเมื่อเข้าปฏิญาณตนแล้ว รัฐบาลเก่า และ คสช.ถือว่าสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ในเดือนมิ.ย. 62

          ไปต่อกันที่ปฏิทินข่าว วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายนนี้ เวลา 05.00 น. มนัสพันธ์ ดอนก้อนไพร ปลัดอำเภอแก่งคอย และ ณฤกษ์ มางเขียว รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เป็นประธานเปิดงานเดิน-วิ่ง การกุศล “วิ่งเข้าป่า เจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ฮาล์ฟ มาราธอน 2018” ณ ค่ายลูกเสือเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ต.ท่ามะปาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี นำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนวัดโป่งก้อนเส้า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี  

 

         อีกงาน วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และ มูลนิธิสิริวัฒนภักดี ขอเชิญร่วมชมกิจกรรมและการแสดงงานสมโภชพระอาราม 230 ปี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งงานจัดมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.โดยวันที่ 11 พ.ย.นี้ เป็นวันสุดท้ายแล้ว ภายในงานมีทั้งกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ การแสดงพื้นบ้านสืบสานศิลปะไทย การแสดงมโนราห์ หุ่นละครเล็ก รำมวยไทย โปงลาง