ข่าว

ธุรกรรมอำพราง ของ 'ณุศาศิริ' และ 'ประเดช กิตติอิสรานนท์' ?!?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมื่อ "บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)" หรือ "NUSA" จะขายหุ้นคืนแก่บริษัท ดีดี มาร์ท โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 1.27 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 900 ล้าน

มารยาตลาดหุ้น ฉบับ 3416 หน้า 17 ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย.2561 โดย...คุณนายเผือก

 

ธุรกรรมอำพราง ของ 'ณุศาศิริ' และ 'ประเดช กิตติอิสรานนท์' ?!?

 

"ธุรกรรมอำพราง"

หรือ "กำขี้ดีกว่ากำตด"

ของ 'ณุศาศิริ' และ

'ประเดช กิตติอิสรานนท์' ?!?

 

 

 

          นานาจิตตัง วิเคราะห์กันไปร้อยแปดเมื่อ “บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)” หรือ NUSA” ซึ่งมีแม่ทัพสาวพันปีอย่าง “เจ๊หมวย” NUSA จะขายหุ้นคืนจำนวน 1.27 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 900 ล้าน ใน ”บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด”  หรือ WEH” คืนให้แก่บริษัท ดีดี มาร์ท โฮลดิ้ง จำกัด (DD MART) ซึ่งปรากฏเป็น “ประเดช กิตติอิสรานนท์” ถือหุ้นใหญ่ 79.66%

 

          โดยราคานี้ “DD Mart” ของ “ประเดช” จ่ายรวมแล้วซึ่งดอกเบี้ย MLR+2% แต่ไม่น้อยกว่า 7.5% โดยการชำระเงินจะอยู่ภายใต้กรอบระยะเวลาไม่เกินวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 แบ่งเป็นล็อต 3 ครั้ง

          หากวิเคราะห์แบบตื้นๆ ก็อาจมองได้ว่า WEH” คงเข้าตลาด หรือทำ IPO ไม่ได้แน่ NUSA ของ “เจ๊หมวย” จึง “กำขี้ดีกว่ากำตด” ขายคืนพร้อมดอกเบี้ยดีกว่า

          แต่หากมองลึกๆ ยาวๆ ดีลนี้อาจเป็น “พฤติกรรมอำพราง” มาแต่ต้น เพราะทั้ง “เจ๊หมวย” และ “ประเดช” ต่างฝ่ายต่างชอบเล่น “ท่ายาก” โดยอาจเป็นได้ที่ “ประเดช” ซึ่งเปรียบดั่ง “นกรู้”  รีบใช้สิทธิ์ “ซื้อคืน WEH” เพราะมั่นใจแล้วว่าจะเข้าตลาดได้ หลัง “ณพ ณรงค์เดช” พร้อมนำทัพพา WEH ใกล้เข้าป้าย IPO ดั่งใจหวัง

          จริงๆ ปัญหาด้านความเหมาะสมในการทำธุรกรรมเริ่มขึ้นตั้งแต่อนุมัติให้ “ประเดช” เพิ่มทุน “NUSA” และให้ “NUSA” มาซื้อ “WEH” เมื่อเดือนตุลาคม 2558 แล้ว

          ซึ่งเมื่อครั้งนั้น ทั้ง ตลท.-ก.ล.ต.ต่างสั่ง NUSA แจงกรณีเข้าซื้อหุ้น WEH หลายต่อหลายรอบจนวุ่นไปหมด ไม่ใช่เพราะหุ้น WEH แพงนะเจ้าคะ เพราะมันไม่ใช่ธุรกิจหลักของ NUSA ซึ่งอยู่ในหมวด พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือ “Property development”

          มาคราวนี้ “ขายหุ้น WEH” ก่อนยื่น “filing IPO” อีก  อนึ่ง “ตบหน้า” ตลท. และ “ก.ล.ต.” แรงๆ อีกที พร้อมกระบวนท่า “โจง โจ๋ง ครึ่ม”

          โดยก่อนทำธุรกรรมนี้ “คนในครอบครัวกิตติอิสรานนท์” มีการขายหุ้น “NUSA” เพื่อลดสัดส่วนไปก่อน ไม่ถึง 2 เดือนล่วงหน้า (ปลาย ก.ย.61)

          การขายหุ้น NUSA ครั้งนี้ ส่งผลให้สัดส่วนของ “ครอบครัวกิตติอิสรานนท์” ลดลงจนต่ำกว่า 10% จึงไม่ถือเป็น “ผู้ถือหุ้นใหญ่” ตามนิยามของพ.ร.บ.หลักทรัพย์ และสามารถหลีกเลี่ยงขั้นตอนการอนุมัติเสมือนหนึ่งเป็นรายการเกี่ยวโยงธุรกรรมครั้งนี้ได้

          แปลความง่ายๆ คือ 2 บริษัท (หนึ่งในนั้นเป็นบริษัทมหาชนที่มีผู้ถือหุ้นกว่า 6 พันราย) มีผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มตระกูลเดียวกัน (เมื่อไม่ถึง 2 เดือนก่อน) มีการทำรายการเกี่ยวโยงกัน ซื้อขายหุ้นกันเองโดยไม่ขออนุญาต ตลท. ก.ล.ต. และที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยอ้างเหตุว่าเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นแล้วก่อนทำรายการล่วงหน้า 2 เดือน!!

          แม้กติกาไม่ผิด แต่เจตนานั้นรู้อยู่แก่ใจ ว่าทำอะไร!!

          เพราะหาก WEH เข้าตลาดได้ต้นปีหน้าหลังฟันฝ่ามารผจญ ที่แน่ๆ NUSA คงเสียค่าโง่มหาศาลกับ upside gain ที่จะเกิดขึ้น

          นี่มันบริษัทมหาชนนะเจ้าคะเจ๊หมวย!?! ไม่ใช่บริษัทส่วนตัว! สรุปธุรกรรมนี้คือการลงทุนหรือการปล่อยกู้กันแน่เจ้าคะ??

          ส่วน “ประเดช กิตติอิสรานนท์” ไม่มีอะไรต้องอธิบายแล้วสำหรับนักลงทุนคนนี้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ