กฟน. 'บิ๊กคลีนนิ่ง'

 

               นายธงชัย สิริจรรยาพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา รวมถึงเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ในระบบจำหน่ายไฟฟ้าในช่วงเข้าสู่ฤดูร้อนที่มีแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก

 

 

               การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลระบบจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้า มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร จึงกำหนดแผนงานการป้องกัน และบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่สำคัญในระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ของ กฟน.

 

               โดยเฉพาะอย่างยิ่งการล้างอุปกรณ์ลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้า (insulator) เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นฉนวนกั้นระหว่างสายไฟฟ้า และคอนเหล็ก ซึ่งหากมีฝุ่นเกาะบริเวณพื้นผิวจำนวนมาก อาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร และเกิดความร้อนจนลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าเกิดความเสียหาย รวมถึงอาจส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างได้ 

 

 

               ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีการล้างลูกถ้วยไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ รูปแบบการฉีดน้ำแรงดันสูง และการถอดล้างลูกถ้วย ซึ่งทั้งสองวิธีจะต้องเริ่มจากการสำรวจหาจุดที่ที่มีความเสี่ยงด้วยเครื่องมือเทอร์โมมิเตอร์ หากตรวจพบว่ามีความร้อนจะต้องดำเนินการฉีดล้างโดยไม่ต้องดับไฟฟ้า

 

               สำหรับในกรณีที่ต้องถอดล้าง จะต้องดำเนินการดับไฟฟ้าในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน แล้วจึงถอดลูกถ้วยไฟฟ้าเพื่อนำมาล้างด้วยน้ำยากำจัดคราบสกปรก รวมถึงคราบสนิมต่างๆ และนำกลับไปติดตั้ง หลังจากนั้นจะต้องมีการตรวจสอบด้วยเทอร์โมมิเตอร์อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าลูกถ้วยดังกล่าวพร้อมใช้งาน สามารถต้านทานกระแสไฟฟ้าได้ดี ไม่มีความร้อนที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร

 

 

               นอกจากฝุ่นที่เกิดจาก PM 2.5 แล้ว กฟน. ยังตรวจสอบอุปกรณ์ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดฝุ่นละอองปริมาณมาก เช่น ในพื้นที่เขตก่อสร้างต่างๆ รวมถึงพื้นที่ใกล้ทะเล ซึ่ง กฟน. มีแผนดำเนินการล้างทุกๆ 1-2 ปี แต่สำหรับในพื้นที่ทั่วไปจะมีแผนการล้างทุกๆ 3-5 ปี อย่างไรก็ตาม การล้างลูกถ้วยไฟฟ้าให้มีความสะอาดอย่างสม่ำเสมอยังเป็นการยืดอายุการใช้งานพร้อมทั้งช่วยให้ระบบจำหน่ายไฟฟ้ามีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

 

               ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุด อยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัยซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงเขตได้ทุกเขต รวมทั้งสามารถสอบถามได้ที่ช่องทางสื่อโซเชียล กฟน. หรือศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ตลอด 24  ชั่วโมง