ข่าว

‘สรวงศ์’ หนุนแจก ‘เงินดิจิทัล’ มั่นใจช่วย กระชากเศรษฐกิจ ให้ดีขึ้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ย้ำรัฐบาล รับฟังทุกข้อวิจารณ์แจก ‘เงินดิจิทัล’ อ้างถ้าไม่ทำอะไรที่แตกต่าง บ้านเมืองก็ไม่เปลี่ยนแปลง มั่นใจช่วย กระชากเศรษฐกิจ ให้ดีขึ้น

ตลอดสัปดาห์รัฐบาลเพื่อไทย ยังเผชิญกับปัญหาที่มาของนโยบายแจก "เงินดิจิทัล" จำนวน 5.6 แสนล้านบาท จะใช้เงินจากที่ไหน หลังกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันหนักขึ้น ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจาก เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ป้ายแดง หลังได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566

 

 

เกี่ยวกับประเด็นนี้ นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงหลายภาคส่วนยังคงวิจารณ์จะโยบายดิจิทัลวอลเล็ตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการออกมาพูดว่าหากต้องกู้เงิน รัฐบาลจะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังรับผิดชอบ มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน แต่ในนามของพรรคเพื่อไทย พรรคมั่นใจเกี่ยวกับโครงการนี้ เพราะไม่ใช่นโยบายแรกที่เราเสนอแล้วมีความแตกต่างจากพรรคอื่น ถ้าจำกันได้ตอน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรก ก็มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์โครงการว่าจะทำได้อย่างไร เอาเงินจากไหน

 

ไม่ปฏิเสธว่าการออกนโยบาย ที่ไม่เหมือนคนอื่นต้องมีคนเห็นต่าง แต่ถ้าเขาคิดกันได้ประเทศก็ไม่เป็นแบบนี้ ถ้าเราไม่ทำอะไรที่แตกต่างให้บ้านเมืองมันคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม ดังนั้นการที่นโยบายนี้ออกมา ตนอยากคนไทยหันกลับมามองคนที่เขาต้องการ นโยบายนี้ไม่ใช่นโยบายช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย แต่จะกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยบอกไม่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจไทยไปในทางที่ดีแล้ว ไม่ทราบว่าดูตัวเลขจากไหน พวกตนเป็นสส.บ้านนอกอยู่กับประชาชนทุกวัน ไม่เห็นว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเลย เราย่ำอยู่กับที่ บางคนพูดว่าเราถอยหลังไปแล้ว ก็อยากให้ดูภาพรวม จริงๆแล้วเราเสียงบประมาณที่ผูกพันอยู่แล้วมากกว่าวงเงินที่ใช้ตรงนี้ แต่นี้เป็นนโยบายครั้งเดียวที่จะกระชากเศรษฐกิจขึ้นมาให้คนในประเทศมีเงินทองหมุนเวียน ดึงดูดนักลงทุนในไทย

 

เมื่อถามถึงกรณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งกรรมการมาศึกษา และรับฟังความเห็นเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว นายสรวงศ์ กล่าวว่า ถ้า ป.ป.ช. ทักท้วงมาแล้วมีเหตุผลรัฐบาลก็รับฟัง นายกรัฐมนตรี เปิดฟังทุกความเห็น แต่ถ้าเขาคิดกันได้ก็ไม่เป็นแบบนี้ ถ้าย้อนไปยุค รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โครงการ 2 ล้านล้าน ที่ต้องหยุดไป ตอนนี้ใช้เงิน 4 ล้านล้าน ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ ประเทศเสียอะไรไปบ้าง เสียโอกาสไปเท่าไหร่ บางอย่างตีมูลค่าไม่ได้ แต่พอเวลาผ่านไปแล้วเป็นมูลค่ามหาศาลมาก ถ้ามีการทักท้วงจากองค์กรอิสระหรืออะไร นายกรัฐมนตรีรับฟัง แต่การบริหารต้องเดินหน้าต้องกล้าตัดสินใจ ถ้าเราไม่กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมากก่อนก็อยู่กับที่เหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ