วิวัฒนาการหลังหมกมุ่นและพึ่งพามือถือ-เทคโนโลยี อาจส่งผลให้กายภาพของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร บริษัทในสหรัฐทำนายด้วยการสร้าง "โมเดลมนุษย์" ในสหัสวรรษหน้า
หลายคนในยุคนี้ลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่ทำคือ ไถโทรศัพท์มือถือ และเมื่อไม่เห็นมือถือหรือแลปทอปอยู่ในสายตา ก็อาจถึงขั้นกระวนกระวาย น้อยคนจะคำนึงถึงผลระยะยาวที่อาจจะตามมา บริษัทสื่อสารโทรคมนาคม Toll Free Forwarding มีสำนักงานแอลเอ สหรัฐอเมริกา จึงได้สร้าง โมเดลมนุษย์ ตั้งชื่อว่า มินดี้ (Mindy) ให้มองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของมนุษย์ในอนาคต จะออกมาในรูปไหน จากการใช้สมาร์ตโฟน แลปทอป และเทคโนโลยีอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยใช้งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และความเห็นผู้เชี่ยวชาญมาประกอบ ก่อนทำงานร่วมกับนักออกแบบ 3 มิติ
มินดี ที่อาจเป็นมนุษย์ในปี ค.ศ. 3000 หลังค่อม คอกว้าง มือหงิก มีเปลือกตาที่สอง
ในเวบไซต์บริษัท มีคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญประกอบการเปลี่ยนแปลงเชิงวิวัฒนาการ อย่าง หลังค่อม มาจากการปรับท่าร่างกายที่ต้องก้มมองมือถือ หรือจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือแลปทอปในที่ทำงาน มือหงิก เป็นผลจากการใช้อุปกรณ์ อย่างสมาร์ทโฟน ที่จะต้องใช้มือกำไว้และงอนิ้วรอบอุปกรณ์ ซึ่งเป็นท่าที่ผิดธรรมชาติเป็นเวลานาน
ศอก 90 องศาถาวร หรือ ข้อศอกสมาร์ตโฟน เกิดจากการวางแขนหรืองอข้อศอก ขณะถือและใช้สมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน ทั้งใช้ทั่วไป หรือถือแนบหูระหว่างคุยทางเสียง ลักษณะอื่น ๆ ของ มินดี คือการที่เธอพัฒนา เปลือกตาที่สอง เพื่อป้องกันรับแสงมากเกินไป
กะโหลกศีรษะหนาและสมองเล็กลง อ้างอิงผลการศึกษาที่สำรวจผลกระทบรังสีคลื่นความถี่วิทยุจากสมาร์ตโฟน รวมถึงในปี 2554 องค์การอนามัยโลกได้จัด รังสีสมาร์ตโฟน อาจเป็นสารก่อมะเร็งต่อมนุษย์ มินดี้จึงมีกะโหลกศีรษะหนาขึ้นเพื่อป้องกันรังสี นอกจากนี้ ในปี 2553 มีงานวิจัยที่ระบุว่า ความสามารถในการรับรู้ (cognitive ability) ของมนุษย์อาจตกต่ำลง เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะด้านการเกษตร สุขภาพและอื่นๆ ทำให้มนุษย์เราดิ้นรนน้อยลงเพื่อความอยู่รอด นักวิจัยของ TollFreeForwarding จึงอ้างว่านี่อาจหมายถึงสมองมนุษย์จะหดลงในอนาคต
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง