องค์การสิทธิมนุษยชนแถวหน้าของโลกออกแถลงการณ์เตือนความไม่ปลอดภัยในการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา
แอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล ออกแถลงการณ์วานนี้ เรียกร้องให้ผู้คนทั่วโลกใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และเตรียมแผนฉุกเฉินไว้ด้วย ขณะเดินทางในสหรัฐอเมริกา หลังเกิดเหตุรุนแรงจากอาวุธปืนหลายระลอก
แถลงการณ์ระบุว่า ผู้ไปเยือนสหรัฐ ไม่สามารถคาดหวังได้ว่าจะปลอดจากอันตราย และประเทศนี้ไม่ได้คุ้มครองสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยอย่างเพียงพอ
แอมเนสตี ยังเตือนชนกลุ่มน้อยทางเพศสภาพ เชื้อชาติและชาติพันธุ์ ที่จะต้องระวังตัว เนื่องจากมีเหตุทำร้ายเมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวโยงกับอุดมการณ์เชิดชูผิวขาว แต่ไม่ได้เอ่ยโดยตรงถึงการยิงกราดที่ห้างวอลมาร์ท เมืองเอลปาโซ รัฐเท็กซัส ที่มีรายงานว่ามือปืนมีแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ
แถลงการณ์ แนะนำให้คนที่เดินทางในสหรัฐ ระวังตัวเป็นพิเศษตลอดเวลา เพราะอาวุธปืนที่มีอยู่ทุกหนแห่งในหมู่ประชากรอเมริกัน หลีกเลี่ยงสถานที่ที่เป็นแหล่งรวมฝูงชนขนาดใหญ่ อย่างสถานที่ท่องเที่ยว บาร์ ไนท์คลับ และกาสิโน พร้อมกล่าวหาสหรัฐว่าเพิกเฉยพันธกรณีระหว่างประเทศที่จะต้องปกป้องคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยของประชาชน ด้วยการจำกัดการเข้าถึงอาวุธปืน และคุ้มครองสิทธิประชาชนในการดำรงชีวิตและเดินทางอย่างเสรีปราศจากภัยคุกคามจากอาวุธปืน
เออร์เนสต์ คอฟเวอร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ยุติเหตุรุนแรงจากปืน แอมเนสเนสตี อินเตอร์เนชันแนล ยูเอสเอ กล่าวว่า ด้วยเงื่อนไขในปัจจุบัน คนที่เดินทางไปสหรัฐไม่อาจคาดหวังได้ว่าจะปลอดอันตราย ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่ถูกยิง ซึ่งตอกย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐไม่มีเจตนารมณ์คุ้มครองความรุนแรงจากปืน
แถลงการณ์ของแอมเนสตี มีขึ้นไล่หลังประกาศเตือนคล้ายกันจากกระทรวงต่างประเทศอุรุกวัย เวเนซุเอลา รวมถึงพันธมิตรสหรัฐอย่างเยอรมนี ไอร์แลนด์ แคนาดา นิวซีแลนด์ และสถานกงสุลญี่ปุ่นในเมืองดีทรอยท์ หลังเหตุกราดยิงเอลปาโซ รัฐเท็กซัส เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ เมื่อสุดสัปดาห์ มีผู้เสียชีวิต 31 คน สะท้อนอันตรายจากความแพร่หลายของอาวุธปืน เพราะกฎหมายควบคุมปืนหย่อนยาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง