สิ้นสุดการรอคอยของครอบครัวผู้สูญเสีย กองทัพเรือฝรั่งเศสพบพิกัดซากเรือดำน้ำสูญหายไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อปี 2511
เรือดำน้ำ "มีแนฟ" ( Minerve ) ของฝรั่งเศส สูญหายไปนอกชายฝั่งทางใต้ พร้อมกับลูกเรือ 52 คน ขณะกำลังเดินทางกลับฐานที่เมืองท่าตูลอน หลังเสร็จสิ้นภารกิจฝึก ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย เมื่อ 17 มกราคม 2511
ความพยายามค้นหานานหลายปีคว้าน้ำเหลว กระทั่งฟลอเรนซ์ พาร์ลี รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ประกาศภารกิจค้นหาครั้งใหม่เมื่อต้นปี โดยระดมเทคโนโลยีสมัยใหม่และเรือกองทัพเรือ หลังจากญาติของผู้สูญเสียรณรงค์เรียกร้องอีกครั้งให้หาพิกัดสุดท้ายของบุคคลอันเป็นที่รัก
“คือความสำเร็จ โล่งอก และเรื่องน่ายินดีทางเทคนิก” รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ทวีตหลังพบพิกัดซากเรือดำน้ำ ห่าง 45 ก.ม. จากเมืองท่า ตูลอน ทางใต้ของฝรั่งเศส
ทีมผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเศสทำแผนที่จำลองกระแสน้ำและน้ำขึ้นน้ำลง ในเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกในช่วงที่เรือสูญหาย และข้อมูลแผ่นดินไหวในช่วงที่บ่งว่าอาจมีการระเบิดบนเรือขณะจมลงก้นทะเล ในที่สุด เรือค้นหา ซีเบ็ด คอนสตรักเตอร์ จากบริษัทสหรัฐ "โอเชียน อินฟินิตี" ที่ติดโดรนใต้น้ำและกล้องแรงสูง ก็ประสบความสำเร็จในการค้นหาเรือมีแนฟ ที่ความลึก 2,370 เมตร
( AFP )
การพบจุดเรือจม สร้างความยินดีและโล่งอกแก่ครอบครัวที่รอคอยมาครึ่งศตวรรษ และหวังว่าอาจจะช่วยไขปริศนาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนั้นได้ สาเหตุที่คาดกันมีตั้งแต่ระบบออกซิเจนขัดข้อง ปัญหาหางเสือ ชนกับเรืออีกลำหรือถูกโจมตีด้วยจรวดใต้น้ำหรือตอร์ปีโด
ในคริสต์ทศวรรษที่ 1960 เป็นช่วงที่สูญเสียเรือดำน้ำหลายลำทั่วโลก
ในปี 1963 มีผู้เสียชีวิต 129 คนจากเรือดำน้ำ ยูเอสเอส เทรเชอร์ จม
5 ปีต่อมา เรือดำน้ำ สกอร์เปียนของสหรัฐเช่นกัน ประสบเหตุจมลง เสียชีวิต 99 คน
ในปีเดียวกัน เรือดำน้ำ เค-129 ของโซเวียตที่ติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ 3 ลูก สูญหายในแปซิฟิกเหนือ สหรัฐปฏิบัติการค้นหาลับและพบในปี 2517 นอกจากนี้ ยังมีเรือดำน้ำ ไอเอ็นเอส ดาการ์ ของอิสราเอล จมเช่นกันในปี 2511 ก่อนพบนอกเกาะครีต ประเทศกรีซในปี 2542
ข่าวที่เกี่ยวข้อง