นาทีหน่วยยามฝั่งสหรัฐไล่กวด-กระโดดลงเรือกึ่งดำน้ำสกัดขนโคเคน

คลิปจากกล้องติดหมวกนิรภัย แสดงให้เห็นปฏิบัติการของลูกเรือจากเรือบด“มุนโร” ( Munro ) ของหน่วยยามฝั่ง ไล่ล่าเรือกึ่งดำน้ำ ที่กำลังแล่นด้วยความเร็วสูงในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งเอกวาดอร์และโคลัมเบียหลายร้อยกิโลเมตร ท่ามกลางเสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนเป็นภาษาสเปนว่า “หยุดเรือเดี๋ยวนี้” 

เวลาต่อมา ลูกเรือคนหนึ่งกระโดดลงไปบนเรือกึ่งดำน้ำเป้าหมาย หลังตั้งหลักได้ก็ตรงไปเข้าทุบฝาครอบประตูเรือหลายครั้ง หลังประตูเปิด มีผู้ต้องสงสัยยกมือโผล่ออกมา 

 

 

โฆษกหน่วยยามฝั่งแปซิฟิก บอกวอชิงตันโพสต์ว่า ในเรือลำนี้ บรรทุกโคเคน 19 ตันกับกัญชาอีก 423 ก.ก. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 569  ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

 

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ไม่ใช่ทุกครั้งที่การเผชิญหน้าทางทะเลจะนำไปสู่การยึดยาเสพติดได้ บางครั้ง แก๊งลอบขนยาเสพติดก็มีอาวุธ หรือหากถูกจับได้ พวกเขามักจะเปิดวาล์วให้น้ำเข้าเรือ ทำลายหลักฐานทั้งหมดก่อนปล่อยเรือจมดิ่งก้นทะเล ส่วนเรือกึ่งดำน้ำในคลิปที่เห็น  หน่วยยามฝั่งทำให้จมลงทะเล ก่อนนำตัวผู้ต้องสงสัยไปดำเนินคดี 

 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตชื่นชมทีมหน่วยยามฝั่งที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ 

 

น่านน้ำแปซิฟิกที่หน่วยยามฝั่งสหรัฐสอดส่อง มีพื้นที่เท่ากับสหรัฐอเมริกา ภารกิจของพวกเขาเหมือนกับรถตำรวจสองคัน ออกตรวจท้องที่ทั้งประเทศ แต่การเจอเรือดำน้ำขนยาเสพติดมักเกิดขึ้นปีละครั้ง  

เรือกึ่งดำน้ำลักษณะนี้ แก๊งค้ายาเสพติดออกแบบมาให้ขนสินค้าผิดกฎหมายได้ในปริมาณมากเพื่อหลบหลีกการตรวจจับของทางการ โดยเฉพาะแก๊งยาเสพติดโคลอมเบียมักใช้เรือแบบนี้ขนโคเคนไปเม็กซิโก ก่อนขึ้นบนขนเข้าไปในสหรัฐอเมริกา