หลังจากอัยการเนเธอร์แลนด์ตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยชาวรัสเซียและยูเครน รวม 4 คนในคดียิงเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินเอ็มเอช17ตกในยูเครนเมื่อปี 2557
นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ของมาเลเซีย แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลการสอบสวนคดีเที่ยวบิน เอ็มเอช17 ถูกยิงตกในยูเครน หลังจากทีมสอบสวนนานาชาติ นำโดยเนเธอร์แลนด์ แถลงเมื่อวาน ( 19 มิ.ย.) ว่าได้ตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยชาวรัสเซีย 3 คน และชาวยูเครน 1 คนในคดีนี้
ผู้นำมาเลเซีย กล่าวว่า เขาไม่สบายใจอย่างมากกับการสอบสวนตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ที่เป็นความพยายามทางการเมืองเพื่อกล่าวโทษรัสเซียอยู่เบื้องหลัง และชี้ตัวรัสเซียตั้งแต่ยังไม่เริ่มสอบสวน ตอนนี้บอกว่ามีหลักฐานพิสูจน์ จึงเป็นเรื่องยากที่มาเลเซียจะยอมรับได้ นอกจากนี้เขาเรียกร้องให้แสดงหลักฐานเอาผิดรัสเซีย เพราะตอนนี้มีเพียงคำบอกเล่า และเขาบอกด้วยว่า เป็นเรื่องน่าขัน ที่ไม่เห็นว่าใครยิง แต่รู้ตัวคนยิง
ตำรวจและอัยการเนเธอร์แลนด์แถลงระบุตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ได้แก่ชาวรัสเซีย 3 คน คือ อิกอร์ เกอร์คิน สเตรลคอฟ, เซอร์เก ดูบินสกี และโอเลก ปูลาตอฟ และชาวยูเครน ลีโอนิด คาร์เชงโก พวกเขามีตำแหน่งสำคัญในกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน
เครื่องบินถูกยิงด้วยขีปนาวุธในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏที่ฝักใฝ่รัสเซีย ขณะบินอยู่กลางอากาศ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 298 คนเสียชีวิต
อัยการระบุว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คนมีส่วนเกี่ยวข้องนำระบบขีปนาวุธบุ๊กจากรัสเซียเข้าสู่ภาคตะวันออกของยูเครน แม้พวกเขาไม่ได้เป็นคนกุดปุ่มยิง การพิจารณาคดีอาจเริ่มขึ้นในเดือนมี.ค.ปีหน้า แต่จะไม่ขอให้รัสเซียและยูเครนส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เพราะทั้งสองประเทศมีกฎหมายห้ามไว้ และเบื้องต้นจะขอให้รัสเซียแจ้งหมายเรียกและสอบปากคำผู้ต้องสงสัย
แต่เกอร์คิน หนึ่งในผู้ต้องสัย ยืนยันว่า กลุ่มกบฏไม่ได้ยิงเครื่องบินตก และอเล็กซานเดอร์ โบโรได อดีตผู้นำกบฏยูเครน กล่าวว่า ข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง