ปิดเฟซบุ๊กแล้วยังอาจปิดการใช้ทวิตเตอร์อีกสื่อด้วย อ้างเป็นพื้นที่แพร่ความเกลียดชัง
โทนี เฟอร์นานเดซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) สายการบิน แอร์ เอเชีย แจ้งผ่านทวิตเตอร์ ในวันนี้ ( 17 มี.ค.) ว่า ได้ปิดบัญชีเฟซบุ๊กของตนเองที่มีผู้ติดตาม 6.7 แสนคนแล้ว โดยอ้างว่า ปริมาณความเกลียดชังที่ส่งต่อบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ มีมากกว่าเรื่องดี ส่วนทวิตเตอร์ก็กำลังคิดอยู่
Closed down my Facebook account with 670 k followers. Just thinking about Twitter now. Weather to close or carry on. The amount of hate that goes on in social media sometimes outweighs the good. But on Twitter I think the battle for me goes on.
— Tony Fernandes (@tonyfernandes) March 17, 2019
เฟอร์นานเดซ ระบุว่า เขาเป็นแฟนตัวยงของสื่อสังคมออนไลน์ แต่ต้องคิดหนักว่าจะอยู่ต่อไปบนเฟซบุ๊กหรือไม่ หลังเกิดเหตุมือปืนบุกสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ 50 คนในมัสยิดสองแห่ง เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อวันศุกร์ โดยมือปืนถ่ายทอดสดการก่อเหตุนองเลือดของตนเองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ความยาว 17 นาที
ในส่วนของทวิตเตอร์ ซีอีโอแอร์เอเชีย มีผู้ติดตาม 1.29 ล้านคน เขาทวิตกว่า 20,200 ครั้ง นับจากสมัครเป็นสมาชิกในปี 2551 มักแสดงความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท และฟุตบอล เขาเป็นเจ้าของร่วมสโมสร ควีนสปาร์คแรงเยอร์ส
ที่นิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ก็กล่าวเช่นกันว่าเธออยากหารือ และต้องการคำตอบจากเฟซบุ๊กและสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆว่า การก่อการร้ายสังหารโหดคนในมัสยิด ถูกถ่ายทอดสดหรือ ไลฟ์สตรีม บนแพลตฟอร์มของพวกเขาได้อย่างไร
มือปืนไลฟ์สดบนเฟซบุ๊กก่อนที่เฟซบุ๊กลบออกไป แต่คลิปความยาว 17 นาทีถูกแชร์ซ้ำไปซ้ำมาบนยูทูบ และทวิตเตอร์ บริษัทต้องไล่ลบไม่หยุด
มีอา การ์ลิก ผู้บริหารเฟซบุ๊กในนิวซีแลนด์ กล่าวว่า บริษัททำงานตลอด 24 ชม.เพื่อลบเนื้อหารุนแรงจากเหตุสังหารหมู่ โดยใน 24 ชม.แรก ลบคลิปการก่อการร้ายที่มัสยิด 1.5 ล้านคลิป โดยในจำนวนนี้ 1.2 คลิปถูกบล็อกขณะอัพโหลด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง