พ่อลูกสี่ฮีโร่ล่อมือปืนไปอีกทางมัสยิดที่สองรอดสูญเสียเพิ่ม

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงมัสยิดสองแห่ง ในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ เพิ่มเป็น 50 คน หลังจากตำรวจเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุพบเหยื่อเพิ่มอีก 1 ราย ขณะมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 50 คน  โดยยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 36 คน จำนวนนี้ 12 คนอยู่ในห้องไอซียู 

 

 

เบรนตัน ทาร์แรนต์ ชาวออสเตรเลียวัย 28 ปี ถูกนำตัวไปขึ้นศาลเมื่อวันเสาร์ เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆาตกรรม 

เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันศุกร์ซึ่งเป็นวันละหมาดใหญ่ ทาร์แรนต์พร้อมอาวุธปืนอัตโนมัติบุกเข้าไปกราดยิงอย่างเลือดเย็น 41 ศพที่มัสยิด อัล นูร์ จากนั้นขับรถไปโจมตีอีกแห่งที่มัสยิดลินวูด หรือศูนย์อิสลามลินวูด ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 5 ก.ม. และสังหารเพิ่มอีก 7 คน 

แต่เหยื่อกระสุนที่มัสยิดที่สอง อาจมากกว่านี้ หากไม่ได้ชายคนหนึ่งตัดสินใจสกัดอย่างกล้าหาญ 

ลาเต็ฟ อาลาบี รักษาการอิหม่ามมัสยิดลินวูด เล่าว่าขณะนำละหมาดอยู่ ได้ยินเสียงรัวปืน มองออกไปทางหน้าต่าง เห็นชายคนหนึ่งกับปืนกล แต่งตัวในชุดคล้ายทหาร เขาคิดว่าอาจเป็นตำรวจ แต่เมื่อมองไปบนพื้น เห็นศพ 2-3 รายนอนอยู่ จึงตระหนักว่าน่าจะเป็นการก่อการร้ายแล้ว จึงบอกให้คนข้างในที่มีประมาณ 80 คนหลบ หลายคนลังเล กระทั่งเสียงปืนดังขึ้นอีกนัด กระจกแตก และมีคนล้มลง  คนจึงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง 

 

 

แต่อับดุล อาซิส วัย 48 ปี ซึ่งอยู่ในมัสยิดกับครอบครัว ไม่หลบ 

อาซิส ไม่มีอะไรในมือ จึงฉวยเครื่องรูดบัตรเครดิตบนโต๊ะเผื่อใช้เป็นอาวุธ และบอกครอบครัวให้อยู่แต่ข้างใน ได้ยินลูกร้องเรียกพ่อให้กลับเขาไป แต่เขาบอกลูกว่า พ่อจะไม่เป็นอะไร  

คนร้ายยิงหมดกระสุนและเดินกลับไปที่รถเพื่อหยิบปืนอีกกระบอก อาซิสฉวยจังหวะนั้นวิ่งออกไปลานจอดรถและตะโกน เมื่อมือปืนหันมาก็ปาเครื่องรูดบัตรเครดิตใส่ เพื่อเบนความสนใจ เพราะไม่ต้องการให้มือปืนเข้าไปในมัสยิด 

ฆาตกรได้ปืนใหม่และเริ่มยิงใส่อาซิส  4-5 ครั้ง แต่พ่อลูกสี่ วิ่งหลบกระสุนระหว่างรถที่จอดอยู่  อาซิสเห็นปืนที่ฆาตกรทิ้งไว้ จึงหยิบขึ้นมาถือไว้ 

 

 

 

มือปืนกลับไปที่รถครั้งที่สองเพื่อหยิบอาวุธใหม่ เขาจึงใช้ปืนที่เก็บได้ปาใส่กระจกหลังรถจนกระจกแตก อีกฝ่ายตกใจ สบถ และออกรถหนีไป แต่อาซิสก็ยังวิ่งไล่ตามรถจนถึงไฟแดง ทาร์แรนกลับรถและเร่งความเร็วหนีไป จากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่าตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้ไม่นานหลังจากนั้น 

อาซิสกลับไปที่มัสยิดอีกครั้ง เห็นเพื่อนหลายคนบาดเจ็บ 

ลาเต็ฟ อาลาบี รักษาการอิหม่ามมัสยิดลินวูด กล่าวว่า อาซิสเบนมือปืนไปอีกทาง ทำให้พวกเรารอด หากมือปืนเข้าไปข้างในมัสยิดได้ พวกเราอาจตายกันหมด 

 

 

 

อาซิส อพยพจากกรุงคาบูลตั้งแต่ยังเด็กและเป็นผู้ลี้ภัย อยู่ในออสเตรเลีย 25 ปีก่อนย้ายไปนิวซีแลนด์เมื่อสองปีก่อน เขาได้รับการยกย่องเป็นฮีโร แต่อาซิสไม่คิดว่าตนเองเป็น เพราะเชื่อว่าหากเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น ก็เชื่อว่าจะต้องมีคนอื่นที่ทำแบบนี้เหมือนกัน  การช่วยเพื่อนมนุษย์คือส่วนหนึ่งของมนุษยธรรม 

อาซิสเชื่อเช่นกันว่าหากเขาไม่ได้เบนความสนใจ ฆาตกรอาจสังหารพวกเขาทั้งหมด เขาบอกว่ามือปืนเป็นคนขี้ขลาดที่ไร้เมตตาต่อทุกคน