แจ้งข้อหาภรรยา-ลูกเลี้ยงวัยรุ่นฆาตกรรมอำพรางซีอีโอมาเลเซีย  

คดีฆาตกรรมที่เป็นข่าวใหญ่และได้รับความสนใจอย่างมากในมาเลเซีย กรณีที่นายนัสริน ฮัสซัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) “เครเดิล ฟันด์” บริษัทในสังกัดกระทรวงการคลัง  เสียชีวิตภายในบ้านพักชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อมิถุนายนปีที่แล้ว โดยตอนแรก เชื่อว่าสาเหตุจากโทรศัพท์มือถือระเบิดและกลายเป็นเพลิงไหม้บ้าน   

แต่ต่อมา สำนักงานดับเพลิงและกู้ภัยพบร่องรอยน้ำมันในที่เกิดเหตุ การตายของเขาจึงถูกระบุว่าเป็นฆาตกรรม และล่าสุด นางซามิราห์ มูซัฟฟาร์ ภรรยาม่ายวัย 43 ปีกับลูกชายสองคนจากสามีคนก่อน อายุ 13 และ 16 ปี ถูกจับกุมและนำตัวไปขึ้นศาลในวันนี้ เพื่อรับทราบข้อหาฆาตกรรม   

ลูกชายทั้งสองคนยังเป็นผู้เยาว์ จึงไม่อาจเปิดเผยชื่อได้ ทั้งคู่ไปขึ้นศาลในเครื่องแบบของโรงเรียน และคลุมหน้า นอกจาก 3 คนนี้แล้ว ยังมีบุคคลที่ 4 เป็นแม่บ้านชาวอินโดนีเซีย ถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรมลับหลัง  

เครเดิล ฟันด์ ก่อตั้งในปี 2546 เพื่อลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลายร้อยแห่ง รวมถึง Grab 
ในเอกสารแจ้งข้อหา ระบุว่าจำเลยทั้งสาม กับนางเอคา วาห์ยู ชาวอินโดนีเซียที่ยังหลบหนีอยู่ ก่อเหตุฆาตกรรมที่บ้าน ช่วงเวลา 23.30 น. ของวันที่ 13 มิถุนายน – 04.00 น. วันที่ 14 มิถุนายนปีที่แล้ว 

 

 

รายงานชันสูตรครั้งแรกระบุว่า นายนัสรินเสียชีวิตจากสำลักควันไฟ ที่เริ่มจากมือถือชาร์จไฟในห้องนอนแล้วเกิดระเบิดขึ้นขณะที่เขากำลังนอนหลับ แต่สองเดือนให้หลัง การตายของเขากลายเป็นคดีฆาตกรรม หลังพบร่องรอยน้ำมันบนศีรษะ ขอบเตียงนอนและที่โทรศัพท์มือถือ ผลชันสูตรพลิกศพครั้งที่สอง พบว่านายนัสริน เสียชีวิตจากบาดเจ็บที่ศีรษะ ที่ไม่ได้เกิดจากโทรศัพท์มือถือระเบิด