พ่อมะกันฟ้องรัฐบาลทรัมป์หลังสั่งห้ามเจ้าสาวไอเอสกลับสหรัฐ

 

จากกรณีที่ โฮดา มูทานา สาวชาวอเมริกันจากเมืองฮูเวอร์ รัฐแอละบามา เดินทางไปร่วมกับไอเอสในซีเรียในวัย 19 ปี แต่ 5 ปีผ่านไป เธอบอกว่าเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนั้น และต้องการเดินทางกลับบ้านในสหรัฐอเมริกา โดยพร้อมรับผลที่ตามมาทุกอย่าง   

 

 

 

แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ได้สั่งไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ อย่าอนุญาตให้มูทานากลับเข้าประเทศ จากนั้นปอมเปโอได้ออกแถลงการณ์วันเดียวกันว่า มูทานาไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน เธอไม่มีหนังสือเดินทาง หรือวีซาเข้าสหรัฐอเมริกา 

ล่าสุด อาห์เหม็ด อาลี มูทานา บิดาของเธอ ได้ยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์  ปอมเปโอ และวิลเลียม บาร์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐ ต่อศาลกลางในวอชิงตัน ดีซี เพื่อคัดค้าน “ความพยายามที่ผิดกฎหมาย” เรื่องการเพิกถอดความเป็นพลเมืองของบุตรสาว และอนุญาตให้เธอเดินทางกลับบ้านพร้อมลูกชายวัย 18 เดือน บิดาของเด็กเป็นชาวตูนิเซียเสียชีวิตในการสู้รบ และเป็นสามีคนที่สามของเธอในซีเรีย 

บิดาของเจ้าสาวไอเอส ขอให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครอง ยับยั้งรัฐบาลสหรัฐปล้นสิทธิพลเมืองอเมริกันแบบขัดรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลยืนยันว่ารัฐบาลมีพันธกรณีที่จะต้องช่วยเหลือพลเมืองกลับจากพื้นที่สู้รบ 

ในคำฟ้องระบุว่า หากกลับสหรัฐ มูทานาเต็มใจและพร้อมรับการถูกแจ้งข้อหาตามที่กระทรวงยุติธรรมเห็นควร 

ตัวแทนครอบครัวได้มอบแถลงการณ์ที่มูทานาเขียนด้วยลายมือตนเอง ว่า ตอนที่เธอออกเดินทางไปซีเรียนั้น เธอยังเยาว์ ผยอง  โกรธแค้นและอ่อนหัด แต่เธอเปลี่ยนไปแล้ว จากประสบการณ์ชีวิตหลายปีในซีเรีย   เธอเสียใจกับคำพูดในอดีต  เป็นเรื่องยากที่จะบรรยายได้ถึงความเจ็บปวดของครอบครัว และความวิตกของประเทศที่เธอเป็นต้นเหตุ 

ทนายที่สู้คดีให้กับบิดาของมูทานา มาจากศูนย์กฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อมุสลิมในอเมริกา ซึ่งศูนย์ได้ออกแถลงการณ์ว่า ได้รับมูทานาเป็นลูกความเพราะมีประเด็นเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ ที่จะมีผลกระทบที่มากกว่ากรณีของมูทานาและลูกชายของเธอ 

“ความเป็นพลเมือง คือแก่นแห่งสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญ ทันทีที่ได้รับการรับรองแล้ว ไม่ควรถูกเพิกถอนได้ฝ่ายเดียวผ่านการทวิต” ทนายกล่าว 

 

( หลักฐานที่ทนายทำมายืนยัน ) 

 

ทั้งนี้ ปอมเปโออ้างเหตุผลว่า ขณะที่โฮดาเกิดในนิวเจอร์ซีย์เมื่อปี 2537นั้น พ่อของเธอยังเป็นนักการทูตเยเมนที่สหประชาชาติอยู่ ซึ่งตามกฎหมาย นักการทูตอยู่ในเขตอำนาจของประเทศที่มา และลูกที่เกิดในประเทศที่นักการทูตไปประจำอยู่ ไม่มีสิทธิได้สัญชาติโดยกำเนิด แต่ครอบครัวยืนยันว่า โฮดาเกิดหลังจากสถานภาพนักการทูตของบิดาสิ้นสุดแล้ว 1 เดือน