ถึงกับต้องคุกเข่า แม่ขอรถหลีกทางฉุกเฉินเพื่อพาลูกชายส่งรพ.

 

เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ รายงานว่า เหตุการณ์ในคลิปที่เรียกเสียงประณามเซ็งแซ่ เกิดขึ้นที่เมืองลูอัน มณฑลอานฮุยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา รถพยาบาลที่กำลังพาเด็กชายได้รับบาดเจ็บคนหนึ่งส่งโรงพยาบาล เปิดไซเรนนานกว่า 10 นาที  แต่กลับไม่มีรถคันใดขยับออกจากเลนฉุกเฉินแม้แต่คันเดียว 

 

กระทั่งมีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาเดินขอร้อง และคุกเข่าก้มศีรษะวิงวอนพวกเขา เพื่อเปิดทางให้รถพยาบาลผ่านไปได้ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มารดาคนนั้นร้องไห้และพร่ำพูดว่า ฉันขอร้อง 

หากทางฉุกเฉินไม่ถูกผู้ขับขี่ยึดไว้เช่นนี้ การเดินทางไปถึงรพ.น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที 

 

 

 

กฎหมายจีนสงวนเลนฉุกเฉินไว้สำหรับรถดับเพลิง รถพยาบาล รถตำรวจและรถกู้ภัยเท่านั้น แต่ผู้ใช้รถมักเพิกเฉยและขวางทางเป็นประจำ โดยเฉพาะการเดินทางช่วงชั่วโมงเร่งด่วน 

ราวสองสัปดาห์ก่อน รถพยาบาลคันหนึ่งใช้เวลาพาคนป่วยส่งโรงพยาบาลนานถึง 40 นาที ทั้งที่ระยะทางแค่ 4 ก.ม. แต่เพราะติดบนทางด่วนใกล้เขต เซียงถัน มณฑลหูหนาน แม้คนขับรถเปิดทั้งไซเรน และใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ยวดยานออกจากทางฉุกเฉินแล้วก็ตาม 

จ้าว หลงจาง คนขับรถพยาบาล กล่าวว่า เลนฉุกเฉินคือความเป็นความตาย การขวางทางคือฆาตกรรมทางอ้อม 

เมืองส่วนใหญ่ในจีน กำหนดโทษปรับฐานวิ่งเลนฉุกเฉินเพียง 200 หยวน ( ราว 900 บาท ) กับตัด 6 แต้ม

ตำรวจในเมืองถุงหลิง มณฑลอานฮุย กล่าวว่า ช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน ปรับผู้ขับขี่รถราว 2,000 รายฐานใช้เลนฉุกเฉิน ขณะชาวสังคมออนไลน์เว่ยป๋อหลายคนแสดงความเห็นว่า ฝ่าฝืนกฎกันง่ายเพราะค่าปรับถูกเกินไป หากทางการลงโทษหนักกว่านี้ อย่างถอนใบขับขี่ ปรับสักหมื่นหยวน ( 4.6 หมื่นบาท ) และส่งเข้าห้องขัง เชื่อแน่ว่าจะไม่มีใครกล้าใช้เลนฉุกเฉินอีก