ข่าว

หนุ่มมะกันแฟนหมอสิงคโปร์ขโมย-รั่วข้อมูลผู้ติดเชื้อเอชไอวี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชายอเมริกันจอมต้มตุ๋น ฉกข้อมูลผู้ป่วยเอชไอวี หลังพ้นโทษจำคุกคดีให้ผลตรวจเลือดอันเป็นเท็จในสิงคโปร์และโดนเนรเทศ 

 

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ แถลงว่า ข้อมูลลับของผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีจำนวน 1.42หมื่นคน รวมทั้งชื่อ ช่องทางติดต่อ และข้อมูลการแพทย์ ถูกขโมยและนำไปเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต โดยผู้อยู่เบื้องหลังก็คือ  นายมิคกี ฟาร์เรรา โบรเชซ ชายชาวอเมริกัน

 

นายฟาร์เรรา โบรเชซ เคยพำนักในสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2551 ก่อนถูกจำคุกในปี 2560 จากความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ฉ้อโกงและให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสถานะการติดเชื้อเอชไอวีของตนเองกับกระทรวงแรงงาน 

คู่รักของฟาร์เรรา โบรเชซคือ เล เต็ก เซียง หมอสิงคโปร์ วัย 36 ปี ที่อดีตเป็นหัวหน้าสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข ช่วงเดือนมีนาคม 2555-พฤษภาคม 2556 และเข้าถึงระเบียนผู้ป่วยเอชไอวีได้ 

หมอเล ส่งตัวอย่างเลือดของตัวเองไปตรวจแทนที่จะเป็นเลือดของฟาร์เรรา-โบรเชซ เพื่อช่วยให้แฟนหนุ่มชาวอเมริกันรายนี้ ทำงานในสิงคโปร์ได้ ผลจากการนี้ ทำให้หมอเลถูกตัดสินจำคุก 2 ปี จากความผิดภายใต้กฎหมายความลับราชการ และให้ข้อมูลเท็จ ขณะนี้กำลังอุทธรณ์ 

 

หนุ่มมะกันแฟนหมอสิงคโปร์ขโมย-รั่วข้อมูลผู้ติดเชื้อเอชไอวี

( มิคกี ฟาร์เรรา โบรเชซ ) 

 

อ่านต่อ คุก 2 ปีหมอสลับเลือดบวกแฟนหนุ่มกับตัวเองเพื่อใบอนุญาตทำงาน

 

แต่อีกเรื่องที่เพิ่งแดงในเดือนนี้ก็คือ ฟาร์เรรา โบรเชซ ซึ่งติดเชื้อเอชไอวี ไม่เพียงใช้เลือดของแฟนหนุ่มที่เป็นหมอ ไปใช้ตรวจเชื้อเพื่อขอใบอนุญาตทำงานในสิงคโปร์  แต่เขายังมีข้อมูลลับของผู้ป่วยเอชไอวีอยู่ในครอบครองด้วย กระทรวงสาธารณสุขได้รับแจ้งจากตำรวจเมื่อ 22 มกราคมว่าข้อมูลของผู้ป่วยเอชไอวีรั่วออกไปภายนอก และได้แจ้งความในวันถัดไป แต่ มือรั่วไม่ได้อยู่ในสิงคโปร์แล้ว เพราะถูกเนรเทศ หลังพ้นโทษจำคุก 

ข้อมูลที่ถูกแพร่งพรายออกไป รวมถึงข้อมูลชาวสิงคโปร์ 5,400 คน ที่ตรวจพบการติดเชื้อเอชไอวีถึงมกราคม 2556 กับชาวต่างชาติ 8,800 คน ที่ตรวจเชื้อถึงธันวาคม 2554 โดยมีชื่อ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ ผลตรวจเลือด และข้อมูลการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงสาธารณสุข ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งได้ติดต่อเพื่อแจ้งข่าวและให้ความช่วยเหลือมาตั้งแต่วันเสาร์แล้ว ตลอดจนกำลังทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปิดการเข้าถึงฐานข้อมูล กระนั้น ข้อมูลยังอยู่ในมือของฟาร์เรรา-โบรเชซ  

กระทรวงขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบข้อมูลที่แพร่ออกไปโดยบังเอิญ ขอให้แจ้งทางการและอย่าแชร์ต่อ ขณะเดียวกันก็จะทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลใหม่ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ