สาวจีนถูกทิ้งในวัยแบเบาะตามหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดร่วมงานแต่ง

 

จาง เสี่ยวอิง วัย 20 ปี ติดต่อไปยังสถานีโทรทัศน์ฝุหยาง โดยหวังว่าคำวิงวอนของเธอจะส่งต่อทั่วถึงในเมืองที่มีประชากร 10 ล้านคนได้มากที่สุด เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ดิฉันจะแต่งงานในอีก 10 วันนี้ ดิฉันหวังว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดจะอยู่ในพิธีแต่งงานด้วย ดิฉันอยากทราบสารทุกข์สุกดิบของพวกท่าน และอยากรู้ด้วยว่าเพราะอะไรท่านทั้งสองจึงไม่ต้องการเธอในเวลานั้น” 

 

อย่างไรก็ดี จาง กล่าวว่า เธอไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองพ่อแม่ของเธอ เพราะอาจมีความจำเป็นและเดือดร้อน เธอฝันเห็นทั้งสองบ่อยครั้งแต่ไม่เคยเห็นภาพชัดเจนเลย ในฝันทุกครั้ง ทั้งสองหันหลังให้และเดินจากไป 

จาง หงฉี คนงานก่อสร้าง พบทารกเพศหญิงร้องไห้จ้าอยู่บนสะพาน ฉวนหลง ในเช้าวันหนึ่งของเดือนมิถุนายน 2542 เขาพยายามตามหาพ่อแม่ของเด็กหญิงแต่ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจเลี้ยงดู พ่อบุญธรรมเล่าให้ฟังตอนที่พบว่า เธอเป็นทารกลืมตาดูโลกไม่กี่วัน อยู่ในห่อผ้าสีแดง พ่อพาเธอไปอาบน้ำและหาเสื้อผ้าลูกของป้าบุญธรรมของเธอมาให้ใส่ 

 

( SCMP via yahoo.sg ) 

 

พ่อบุญธรรมตั้งชื่อเด็กหญิงไม่รู้ที่มาที่ไปว่า เสี่ยงอิง และใช้วันที่พบเป็นวันเกิด เธอต้องออกจากโรงเรียนกลางคันตอนอายุ 10 ขวบ เพราะพ่อบุญธรรมเสียชีวิตขณะทำงานในลานก่อสร้างในปี 2552 จากนั้น ไปอาศัยอยู่กับญาติหลายคน และมีชีวิตลำบาก ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในภัตตาคาร ตลอดเวลา เธอเฝ้าสงสัยว่าพ่อแม่หน้าตาเป็นอย่างไร และท่านทั้งสองเคยสงสัยเรื่องราวของเธอบ้างหรือไม่ 

จางพยายามตามหาทั้งสอง 3 ปีแล้ว บางครั้งไปที่สะพานในตอนกลางคืน แต่ไม่เคยพบ ความปรารถนาที่จะได้พบกับพ่อแม่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่องานแต่งงานใกล้เข้ามา และปู่วัย 90 ปีของเธอก็สนับสนุน ในที่สุด จางตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากสื่อ 

ตำรวจฝุหยางรับทราบคำวิงวอนของเธอผ่านสื่อ และเชิญให้ไปตรวจดีเอ็นเอเมื่อเช้าวันอังคาร เพื่อใช้ตามหาพ่อแม่ 

 

 

( SCMP via yahoo.sg ) 

การทิ้งทารกเป็นอาชญากรรมในจีน แต่เกิดขึ้นประจำ  

ไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการบ่งบอกถึงปัญหานี้ แต่รายงานจากกระทรวงกิจการพลเรือนของจีน ในปี 2553 ระบุว่า มีทารกราว 1 แสนคนถูกทิ้งทุกปี

เพื่อลดอันตรายเกิดกับเด็กถูกทิ้ง  หน่วยงานที่รับผิดชอบเริ่มจัดตั้งจุดหย่อนทารัก ไว้ทั่วประเทศจีนเมื่อปี 2554 

ช่วงปี 2556 – 2557 พบเด็กราว 1,400 คน ส่วนใหญ่พิการ ถูกทิ้งในจุดหย่อนทารก 32 จุดทั่วประเทศ 

ชาวเน็ตพากันอวยพรให้กับว่าที่เจ้าสาวรายนี้ แต่มีความเห็นแตกต่างกันเรื่องที่เธอพยายามตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง บางคนมองว่า ป่วยการที่จะตามหา ทั้งสองได้ยุติความเป็นพ่อแม่ตั้งแต่นาทีที่ทอดทิ้ง โดยไม่เคยตามหา  แต่อีกฝ่ายเข้าใจ  ด้วยมองว่า เรื่องนี้เป็นปมในใจที่อาจไม่มีวันคลายออกได้หากว่าจางไม่ได้เจอพ่อแม่ และมองว่าเธอเป็นคนจิตใจดีพยายามตามหาผู้ให้กำเนิดเพื่อขอพรในวันสำคัญ หวังว่าความปรารถนาของเธอจะเป็นจริง