ข่าว

ผู้ก่อตั้ง"หัวเว่ย"พูดสื่อนอกครั้งแรกชม"ทรัมป์"-ปัดสอดแนม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ซีอีโอหัวเว่ยออกโรงเอง ย้ำอีกครั้งต่อให้รัฐบาลปักกิ่งขอให้จารกรรมก็ไม่คิดจะทำ ชมทรัมป์กล้าตัดสินใจ แต่ต้องดูปฏิบัติกับนักลงทุนให้ดี 

 

หลังจากเงียบมานาน ขณะอาณาจักรสื่อสารโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่แห่งแดนมังกร เผชิญวิกฤติครั้งร้ายแรงสุดตั้งแต่ถือกำเนิดกว่า 30 ปี ถูกนานาประเทศเพ่งเล็งว่าเป็นภัยความมั่นคง และบุตรสาวถูกจับกุมในแคนาดา 

 

นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ)บริษัทหัวเว่ย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเป็นครั้งแรก ยืนยันว่าหัวเว่ยไม่เคยสอดแนมให้กับรัฐบาลจีน และจะปฏิเสธแน่นอนหากรัฐบาลปักกิ่งขอให้ทำเช่นนั้น แม้ปูมหลังของเขา คืออดีตวิศวกรกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ก็ตาม 

 

 

“ผมรักประเทศของผม สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ผมจะไม่มีวันทำอะไรที่เป็นภัยต่อประเทศใดในโลก  ผมไม่เห็นว่าจะมีความเชื่อมโยงใดระหว่างความเชื่อส่วนตัวทางการเมืองกับธุรกิจของหัวเว่ย”

 

ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ คือประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ และเขาจะยึดหลักรอดูไปก่อนว่า ผู้นำสหรัฐจะแทรกแซงคดีของนางเมิ่ง ว่านโจว บุตรสาวของเขาและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของหัวเว่ย หรือไม่  

 

 

ปัจจุบัน นางเมิ่งได้รับการประกันตัวอยู่ในแคนาดา รอต่อสู้คดีส่งตัวไปดำเนินคดีในสหรัฐอเมริกา ที่กล่าวหาเธอว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน 

 

นายเหริน ค่อนข้างเก็บตัว ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศหลังสุดคือเมื่อปี 2558 การออกมาอีกครั้งตอกย้ำถึงสถานการณ์ของหัวเว่ย ที่กลายเป็นสัญลักษณ์การผงาดเป็นเจ้าเทคโนโลยีของจีน 

 

 

ผู้ก่อตั้ง"หัวเว่ย"พูดสื่อนอกครั้งแรกชม"ทรัมป์"-ปัดสอดแนม

 

ชะตากรรมของบุตรสาวผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ที่ถูกกล่าวหาว่าช่วยธนาคารฉ้อฉล กระพือความวิตกว่าหัวเว่ยช่วยปักกิ่งจารกรรมรัฐบาลต่างประเทศ ขณะที่รัฐบาลวอชิงตันเกลี้ยกล่อมพันธมิตร ร่วมขึ้นบัญชีดำอุปกรณ์โครงข่ายการสื่อสารของหัวเว่ย

 

นายเหริน ซึ่งเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคฯหลังออกจากกองทัพ ย้ำถึงศักยภาพความร่วมมือกับสหรัฐและรัฐบาลของทรัมป์ และไม่คิดว่าหัวเว่ยจะมีบทบาทมากนัก ในสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ที่กำลังเขย่าขวัญนักลงทุนและบริษัททั่วโลก ผู้ก่อตั้งกล่าวว่า หัวเว่ยเป็นแค่หนึ่งเมล็ดงาในความขัดแย้งการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ 

 

“ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ กล้าลดภาษีมโหฬารช่วยภาคธุรกิจ แต่ท่านก็จะต้องปฏิบัติต่อบริษัทและประเทศต่างๆอย่างดีด้วยเพื่อที่พวกเขาจะได้พร้อมเข้าไปลงทุนในสหรัฐ และรัฐบาลสหรัฐจะสามารถเก็บภาษีได้มากพอ” 

 

เหริน วัย 74 ปี ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลในตำนานธุรกิจจีนคนหนึ่ง ยังบริหารงานบริษัทอยู่แม้วางมือจากการดำเนินงานรายวัน ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูงหลายคน รวมถึงประธาน เคน หู ต่างออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ ปฏิเสธข้อหาสอดแนมและท้าผู้กล่าวหาหาหลักฐานมาพิสูจน์ แต่การจับกุมผู้อำนวยการฝ่ายขายสาขาโปแลนด์เมื่อสัปดาห์ก่อน ในข้อหาเดิมคือจารกรรมให้ปักกิ่ง อาจเป็นสาเหตุกระตุ้นให้ซีอีโอต้องออกโรงเอง 

 

“หัวเว่ยไม่ใช่บริษัทมหาชน เราไม่ต้องการรายงานผลประกอบการสวยงาม หากพวกเขาไม่ต้องการหัวเว่ยให้อยู่ในตลาดบางแห่ง เราสามารถลดขนาดลงได้เล็กน้อย เรายังมีอนาคต ตราบใดที่เรายังสามารถอยู่รอดและเลี้ยงปากท้องพนักงานของเราได้” ซีอีโอหัวเว่ยกล่าวทิ้งท้าย 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ