แชมป์โอลิมปิกสเก็ตน้ำแข็งเกาหลีใต้ฟ้องเอาผิดโค้ชละเมิดทางเพศ

 

สำนักงานตำรวจจังหวัดคยองคี ในเกาหลีใต้ระบุว่า ชิม ซุก ฮี เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกสเก็ตน้ำแข็งระยะสั้น แจ้งความเอาผิด โช แต บอม อดีตโค้ช  เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ในข้อหาข่มขืนและลวนลามเธอตั้งแต่ปี 2557 ขณะที่เธออายุเพียง 17 ปี 

 

อดีตโค้ชรายนี้ ถูกตัดสินมีความผิดและถูกลงโทษจำคุก ฐานใช้ความรุนแรงกับนักสเก็ตระยะสั้นหลายคน รวมถึงชิม แต่เขาปฏิเสธข้อหาข่มขืน 

ชิม กล่าวว่า การล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นหลายครั้ง ในห้องล็อคเกอร์ของโค้ช ที่ลานน้ำแขงมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติเกาหลี และในห้องล็อคเกอร์ในศูนย์ฝึกแห่งชาติ เขตแทนึง ในกรุงโซล และ ที่เมืองจินชอน จังหวัดชุงชองเหนือ กระทั่ง 2 เดือนก่อนโอลิมปิกฤดูหนาวพย็องชาง เมื่อปีที่แล้ว แต่ต้องเก็บงำไว้ 4 ปี ไม่กล้าเปิดเผยการกระทำของโค้ชได้ แม้กระทั่งครอบครัว เนื่องจากโช ใช้อำนาจโค้ชขู่เธอและเส้นทางนักกีฬาของเธอ 

แต่นักกีฬาหญิงวัย 22 ปี ตัดสินใจเปิดเผยเรื่องนี้หลังจากได้รับจดหมายให้กำลังใจจากแฟนคนหนึ่ง ที่บอกว่าเธอเป็นแรงบันดาลใจหลังสามารถแสดงผลงานได้ดีในโอลิมปิก ทั้งที่เผชิญประสบการณ์เลวร้าย

แม้ด้านหนึ่งก็กังวลว่าการออกมาพูดเรื่องนี้ อาจทำลายอาชีพนักกีฬาสเก็ต ชีวิตของเธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง และครอบครัว ทั้งยังกลัวว่าโชอาจหาทางแก้เค้น แต่เธอต้องพูดเพื่อป้องกันอาชญากรรมแบบเดียวกันนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก และคิดว่าอาจช่วยให้เหยื่อคนอื่นกล้าออกมาต่อสู้เช่นกัน

 

แม้เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธ แต่ตำรวจเริ่มสอบสวนโดยตรวจสอบจากโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์แทบเล็ตของเขา 

พฤติกรรมล่วงละเมิดของโช เป็นที่รับรู้ เมื่อจู่ๆ ชิมออกจากศูนย์ฝึกแห่งชาติจินเชิน ไม่กี่สัปดาห์ก่อนโอลิมปิกพย็องชางเริ่มขึ้น เนื่องจากโชทุบตีเธออย่างรุนแรง ชิมบาดเจ็บสมองได้รับความกระทบกระเทือน และเป็นสาเหตุให้เธอลื่นล้มระหว่างแข่งขัน 

กันยายน 2561 อดีตโค้ชจอมโหด ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 10 เดือน ฐานใช้ความรุนแรงกับนักสเก็ต 4 คนรวมถึงชิม เริ่มตั้งแต่ปี 2554 ขณะนี้เขากำลังอุทธรณ์คดี 

ระหว่างให้การในศาลคดีทุบตี ชิม กล่าวทั้งน้ำตาว่า โค้ชโช เริ่มใช้ความรุนแรงกับเธอตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และหนักขึ้นเรื่อยๆเมื่อเธอโตขึ้น มีครั้งหนึ่งที่เธอคิดว่าคงไม่รอด เพราะเขาทั้งเตะและชกเธอ 

อีกด้าน กระทรวงการท่องเที่ยว วัฒนธรรมและกีฬา ประกาศมาตรการใหม่มุ่งถอนรากถอนโคนพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศในวงการกีฬา รวมถึงขยายฐานความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศ เช่น ลวนลาม อยู่ในข่ายโดนลงโทษห้ามทำงานในวงการกีฬา นอกจากนี้ ยังมีแผนประสานกับองค์การกีฬาระหว่างประเทศ ไม่รับผู้กระทำผิดข้อหานี้เข้าทำงาน