ฟ้องบริษัทซอฟต์แวร์อิสราเอลช่วยซาอุฯสปายมือถือ"คาช็อคกี"

 

นายโอมาร์ อับดุลลาซิส ชาวซาอุดีอาระเบียวัย 27 ปีที่ลี้ัภัยในแคนาดา ยื่นฟ้อง 
"เอ็นเอสโอ กรุป" บริษัทซอฟต์แวร์อิสราเอลและรัฐบาลอิสราเอล ที่ออกใบอนุญาตให้บริษัทขายโปรแกรมสปาย “เพกาซัส ” ( Pegasus ) แก่รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย และนำมาสู่การสังหาร จามัล คาช็อคกี เพื่อนของเขา 

 

อับดุลลาซิส โจกท์ที่ยื่นฟ้อง เป็นคนโด่งดังในโลกออนไลน์ซาอุฯ หลังปรากฎการณ์อาหรับสปริง จากการทำคลิปวิดีโอและแสดงความเห็นสื่อสังคมออนไลน์ วิจารณ์ผู้ปกครองและระบอบอำนาจนิยม 

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อับดุลลาซิสกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เพราะเป็นเพื่อนและทำงานกับ คาช็อคกี นักชาวซาอุฯที่ลี้ภัยตัวเองไปอยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย และเขียนคอลัมน์ให้กับวอชิงตันโพสต์ 

ในคำฟ้อง อับดุลลาซิสอ้างว่าหลายเดือนก่อนลงมือสังหาร ทางการซาอุฯสามารถเข้าถึงการติดต่อสื่อสารของคาช็อคกี กับเขา ที่หารือกันถึงแผนงานของฝ่ายค้าน ด้วยโปรแกรมสอดแนมของบริษัทอิสราเอล 

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาได้รับลิงค์หนึ่งและคลิกไปตามลิงค์นั้นทางมือถือ แต่กลายเป็นการเปิดช่องให้ทางการซาอุฯเข้ามาสอดแนมการสื่อสารได้ เพราะนับแต่คลิกที่ลิงค์นั้น เขาถูกทางการซาอุฯติดตามรังควาญอย่างหนัก รวมถึงการกักตัวครอบครัวของเขาในซาอุฯ 

คำฟ้องระบุว่า การสอดแนมที่พุ่งเป้าอับดุลลาซิส และการเปิดเผยเนื้อหาการสนทนากับการส่งข้อความระหว่างเขากับคาช็อคกีผ่านระบบสปาย มีส่วนอย่างสำคัญต่อการตัดสินใจสังหารคาช็อคกี โดยทีมลอบสังหารที่สถานกงสุล 

อับดุลลาซิซเรียกร้องค่าเสียหาย 1.6 แสนดอลลาร์จากบริษัท และขอให้ศาลออกคำสั่งห้ามเอ็นเอสโอ กรุป ขายเทคโนโลยีสอดแนมให้ซาอุฯ 

การยื่นฟ้องที่ศาลในกรุงเทลอาวีฟเมื่อวันอาทิตย์ เพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทขายเครื่องมือช่วยสอดแนมขั้นสูงของอิสราเอล ที่กำลังถูกฟ้องร้องแบบเดียวกันจากนักข่าว นักเคลื่อนไหวและหลายฝ่าย ที่กล่าวหา เอ็นเอสโอ กรุ๊ป ให้ความช่วยเหลืออย่างไม่เหมาะสมแก่รัฐบาลเม็กซิโก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สอดแนมสมาร์ทโฟนของพวกเขา ทั้งที่ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมและไม่มีทีท่าว่าจะก่อความรุนแรง

นอกจากนี้ ยังเรียกความสนใจครั้งใหม่ไปที่การเป็นพันธมิตรอย่างเปิดเผยมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบีย ราชวงศ์อื่นในอ่าวเปอร์เซีย และพันธมิตรอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แม้ไม่เคยยอมรับรัฐยิว แต่ก็มีศัตรูร่วมอย่างเงียบๆคือการสกัดกั้นอิหร่าน 

เอ็นเอสโอ กรุป ออกแถลงการณ์วานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับใบอนุญาตเพื่อให้รัฐบาลและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ใช้เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายและอาชญากรรมในกรอบกฎหมายเท่านั้น  บริษัทจะไม่อดกลั้นต่อการนำโปรแกรมไปใช้ในทางที่ผิด หากพบข้อสงสัย จะสอบสวนและดำเนินมาตรการเหมาะสม รวมถึงระงับสัญญา 

เทคโนโลยีแฮคสมาร์ทโฟนของเอ็นเอสโอ กรุป ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมของรัฐบาลหลายประเทศใช้สกัดกั้นผู้เห็นต่างในตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา ช่วยให้ลูกค้าดักฟังการโทรศัพท์ บันทึกการพิมพ์ อ่านข้อความ และแกะรอยประวัติการใช้อินเทอร์เน็ตของโทรศัพท์เป้าหมายได้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ลูกค้าใช้ไมโครโฟนกับกล้องสมาร์ทโฟน เป็นอุปกรณ์ดักฟังได้อีกด้วย 

ด้วยขีดความสามารถรุกล้ำอย่างกว้างขวางนี้เอง อิสราเอลจึงจัดหมวด สปายแวร์ตัวนี้ เป็นอาวุธชนิดหนึ่ง บริษัทจึงต้องขออนุมัติจากกระทรวงกลาโหมก่อนขายให้กับรัฐบาลต่างประเทศ 

สื่ออิสราเอล รายงานว่า ซาอุดีอาระเบียใช้เงิน 55 ล้านดอลลาร์เพื่อใช้โปรแกรมนี้เมื่อปีที่แล้ว