โรงเรียนแห่งหนึ่งในจีนเล็งฟ้องพ่อแม่เด็กชายวัย 15 ฐานโยนความผิดลูกชายฆ่าตัวตายเพราะครูจับไปตัดผมเกรียน
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน เด็กชายที่ได้รับการเปิดเผยสนามสกุล ไป๋ ตกลงมาจากอาคารสูงในย่านที่พักอาศัยในเมืองซีอาน เมืองหลวงมณฑลส่านซี ราว 10 วันหลังจากที่ถูกครูพาไปร้านทำผมและบังคับโกนผม
ตำรวจกำลังสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต แต่เบื้องต้นไม่คิดว่าเป็นฆาตกรรม
พ่อแม่ของเด็กบอกสื่อว่า นับแต่นั้น ลูกชายไม่ยอมไปโรงเรียนมัธยมปลายซือเตี้ยน ยืนกรานอยู่บ้านเพราะคิดว่าตัวเองน่าเกลียด
ครอบครัวและญาติ 4 คนเริ่มไปประท้วงหน้าโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 5 เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบ ขณะทางโรงเรียนกำลังพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายฐานทำให้เสียชื่อเสียง
โรงเรียนออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า ครอบครัวเด็กชายไป๋ ต้องการค่าชดเชย 1.2 ล้านหยวน ( 5.6 ล้านบาท) จากโรงเรียน เพราะเชื่อว่าทรงผมเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรม ด้านโรงเรียนเสนอมอบเงิน 1 แสนหยวน ( ราว 4.7 แสนบาท ) เป็นค่าชดเชยด้านมนุษยธรรม แต่ยังทำความตกลงกันไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธเรื่องการบังคับเด็กไปตัดผม
แถลงการณ์ระบุว่า ครูใหญ่ที่ได้พูดคุยกับเด็กและพ่อแม่ก่อนแล้ว จึงพาเด็กชายไป๋ไปร้านตัดผม และได้ตัดทรงสั้น ไม่ใช่โกนศีรษะ โดยที่หลังจากนั้น ทั้งนักเรียนและพ่อแม่ก็ไม่ได้ร้องเรียนมายังโรงเรียนแต่อย่างใด
กระนั้น ในสื่อสังคมออนไลน์ มีการแชร์ภาพถ่ายจากจอมือถือที่เด็กชายไป๋โพสต์ว่า รู้สึกขมขื่นกับผมทรงใหม่ และโพสต์หนึ่งหลังจากตัดผม ผู้ตายเขียนด้วยว่า จะไม่ไปโรงเรียนเว้นแต่ครูจะตาย
จากการส่งข้อความพูดคุยระหว่างครูกับพ่อแม่ พบว่าทั้งสองฝ่ายพยายามเกลี้ยกล่อมให้เด็กไปโรงเรียน “เขาบ่นว่า ทรงผมน่าเกลียดจนไม่อยากให้ใครเด็ก ผมกำลังพยายาม เขาดื้อมาก” พ่อของไป๋บอกกับครูผ่านแอพ WeChat
โรงเรียนหลายแห่งในจีนถูกวิจารณ์บ่อยครั้งเรื่องเข้มงวดระเบียบแบบขึงตึง รวมถึงระเบียบทรงผม อีกทั้งยังมีการตั้งกฎจุกจิกที่ถูกมองว่าไม่จำเป็น หรือไม่มีเหตุผลเท่าที่ควร เช่น ห้ามวิ่งระหว่างพัก และต้องนั่งนิ่งระหว่างการเรียนการสอน
บางครั้ง การบังคับลงโทษทางวินัยเข้มงวดนำไปสู่โศกนาฏกรรม ดังกรณีนักเรียนวัย 16 ถูกครูลงโทษฐานพูดคุย ด้วยการให้กระโดดกบบนทางลาดชันระยะ 20 เมตร แต่เด็กเป็นลมหมดสติและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เมื่อกันยายนปีที่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง