ข่าว

"ทรัมป์"เล็งยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์กับรัสเซียที่ใช้มานาน31ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รัสเซียวิพากษ์สหรัฐอเมริกาฝันเป็นอภิมหาอำนาจโลกแต่เพียงผู้เดียว 


                    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ กล่าวยืนยันวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ( 20 ต.ค.) ว่าสหรัฐมีแผนจะยกเลิกสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (  INF -Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty)  ที่ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ลงนามกับ มิคฮาอิล กอร์บาชอฟ ประธานาธิบดีคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต เมื่อ 31 ปีที่แล้ว 


                     ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองเอลโค รัฐเนวาดาว่า สหรัฐเป็นฝ่ายเดียวที่เคารพข้อตกลงเสมอมา แต่น่าเสียดายที่รัสเซียไม่ได้ทำเช่นนั้น “รัสเซียละเมิดข้อตกลงมานานหลายปีแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมประธานาธิบดีบารัค โอบามา จึงไม่เจรจาหรือถอนตัวออกมา เราจะไม่ยอมให้พวกเขาละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ และผลิตอาวุธอีก” 

 

"ทรัมป์"เล็งยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์กับรัสเซียที่ใช้มานาน31ปี
                    ถ้อยแถลงของทรัมป์ มีขึ้นขณะที่จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ เตรียมพบปะกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย สัปดาห์นี้ ก่อนหน้าที่ทรัมป์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อาจจะประชุมสุดยอดครั้งที่สองในรอบปีในเดือนหน้า


                    นอกจากนี้ โบลตันยังเตรียมพบหารือกับ นิโคไล ปาตรูชอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงรัสเซียและยูริ ยูชาคอฟ ที่ปรึกษาของปูติน รวมถึงอาจจะเข้าพบประธานาธิบดีปูตินด้วย 


                    รัฐบาลทรัมป์เคยร้องเรียนเรื่องที่มอสโกประจำการมิสไซล์ 9M729 ที่สหรัฐระบุว่าสามารถเดินทางไกลกว่า 500 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าละเมิดสนธิสัญญาไอเอ็นเอฟ  ที่ห้ามมิสไซล์พิสัย 500-5,500 กิโลเมตร 


                    ไอเอ็นเอฟ ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์ตึงเครียดในคริสต์ทศวรรษ 1980 หลัง สหภาพโซเวียตประจำการขีปนาวุธพิสัยกลางติดหัวรบนิวเคลียร์ SS-20  พุ่งเป้าเมืองหลวงตะวันตก 
                    ขณะสำนักข่าว อาร์ไอเอ โนวอสติ ของทางการรัสเซีย อ้างแหล่งข่าวกระทรวงต่างประเทศว่าแรงจูงใจหลักของรัฐบาลวอชิงตันก็คือการฝันถึงโลกขั้วเดียว ที่จะไม่มีวันเป็นจริง  เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวหาวอชิงตันว่า การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสหรัฐ ที่มุ่งถอนตัวจากข้อตกลงระหว่างประเทศที่จัดวางความรับผิดชอบอย่างเท่าเทียมกับหุ้นส่วน และดำเนินการมาที่ละขั้นตลอดหลายปี 


                    อเล็กเซ พุชคอฟ สมาชิกวุฒิสภารัสเซีย ทวิตว่า เป็นครั้งที่สองที่สหรัฐทำลายระบบรักษาเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ของโลก ที่เริ่มจากการถอนตัวสนธิสัญญาต่อต้านขีปนาวุธทิ้งตัว (  Ballistic Missile -ขีปนาวุธซึ่งติดหัวรบหนึ่งหัวหรือมากกว่าเพื่อทำล้ายล้างเป้าหมายในวงกว้างหรือหลายเป้าหมายในการยิงครั้งเดียว ) ในปี 2544 


                    หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน รายงานว่า โบลตัน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นที่ปรึกษาสายเหยี่ยว เป็นผู้ผลักดันให้ทรัมป์ทิ้งสนธิสัญญาไอเอ็นเอฟ และระงับการเจรจาขยายสนธิสัญญาว่าด้วยขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่จะหมดอายุในอีก 3 ปีข้างหน้า การถอนตัวจากไอเอ็นเอฟของสหรัฐยังอาจพุ่งเป้าที่รัฐบาลปักกิ่งด้วย เนื่องจากจีนไม่ใช่ภาคีสนธิสัญญา จึงสามารถพัฒนาระบบอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางได้โดยไม่มีข้อจำกัด 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ