รัสเซียวิพากษ์สหรัฐอเมริกาฝันเป็นอภิมหาอำนาจโลกแต่เพียงผู้เดียว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ กล่าวยืนยันวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ( 20 ต.ค.) ว่าสหรัฐมีแผนจะยกเลิกสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง ( INF -Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty) ที่ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ลงนามกับ มิคฮาอิล กอร์บาชอฟ ประธานาธิบดีคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต เมื่อ 31 ปีที่แล้ว
ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองเอลโค รัฐเนวาดาว่า สหรัฐเป็นฝ่ายเดียวที่เคารพข้อตกลงเสมอมา แต่น่าเสียดายที่รัสเซียไม่ได้ทำเช่นนั้น “รัสเซียละเมิดข้อตกลงมานานหลายปีแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมประธานาธิบดีบารัค โอบามา จึงไม่เจรจาหรือถอนตัวออกมา เราจะไม่ยอมให้พวกเขาละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ และผลิตอาวุธอีก”
ถ้อยแถลงของทรัมป์ มีขึ้นขณะที่จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ เตรียมพบปะกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย สัปดาห์นี้ ก่อนหน้าที่ทรัมป์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อาจจะประชุมสุดยอดครั้งที่สองในรอบปีในเดือนหน้า
นอกจากนี้ โบลตันยังเตรียมพบหารือกับ นิโคไล ปาตรูชอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงรัสเซียและยูริ ยูชาคอฟ ที่ปรึกษาของปูติน รวมถึงอาจจะเข้าพบประธานาธิบดีปูตินด้วย
รัฐบาลทรัมป์เคยร้องเรียนเรื่องที่มอสโกประจำการมิสไซล์ 9M729 ที่สหรัฐระบุว่าสามารถเดินทางไกลกว่า 500 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าละเมิดสนธิสัญญาไอเอ็นเอฟ ที่ห้ามมิสไซล์พิสัย 500-5,500 กิโลเมตร
ไอเอ็นเอฟ ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์ตึงเครียดในคริสต์ทศวรรษ 1980 หลัง สหภาพโซเวียตประจำการขีปนาวุธพิสัยกลางติดหัวรบนิวเคลียร์ SS-20 พุ่งเป้าเมืองหลวงตะวันตก
ขณะสำนักข่าว อาร์ไอเอ โนวอสติ ของทางการรัสเซีย อ้างแหล่งข่าวกระทรวงต่างประเทศว่าแรงจูงใจหลักของรัฐบาลวอชิงตันก็คือการฝันถึงโลกขั้วเดียว ที่จะไม่มีวันเป็นจริง เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวหาวอชิงตันว่า การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสหรัฐ ที่มุ่งถอนตัวจากข้อตกลงระหว่างประเทศที่จัดวางความรับผิดชอบอย่างเท่าเทียมกับหุ้นส่วน และดำเนินการมาที่ละขั้นตลอดหลายปี
อเล็กเซ พุชคอฟ สมาชิกวุฒิสภารัสเซีย ทวิตว่า เป็นครั้งที่สองที่สหรัฐทำลายระบบรักษาเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ของโลก ที่เริ่มจากการถอนตัวสนธิสัญญาต่อต้านขีปนาวุธทิ้งตัว ( Ballistic Missile -ขีปนาวุธซึ่งติดหัวรบหนึ่งหัวหรือมากกว่าเพื่อทำล้ายล้างเป้าหมายในวงกว้างหรือหลายเป้าหมายในการยิงครั้งเดียว ) ในปี 2544
หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน รายงานว่า โบลตัน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นที่ปรึกษาสายเหยี่ยว เป็นผู้ผลักดันให้ทรัมป์ทิ้งสนธิสัญญาไอเอ็นเอฟ และระงับการเจรจาขยายสนธิสัญญาว่าด้วยขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่จะหมดอายุในอีก 3 ปีข้างหน้า การถอนตัวจากไอเอ็นเอฟของสหรัฐยังอาจพุ่งเป้าที่รัฐบาลปักกิ่งด้วย เนื่องจากจีนไม่ใช่ภาคีสนธิสัญญา จึงสามารถพัฒนาระบบอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางได้โดยไม่มีข้อจำกัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง