กระทรวงกลาโหมสหรัฐสั่งเอฟ 35 งดบินทุกลำ เพื่อตรวจสอบ หลังเครื่องบินขับไล่แพงที่สุดประสบเหตุตกครั้งแรก
หลังจากกองทัพสหรัฐสูญเสียเครื่องบินขับไล่สเตล์ท เอฟ-35บี ลำแรกจากเหตุตกจนพังย่อยยับ ที่เซาท์คาโรไลนา เมื่อเดือนก่อน ข้อมูลในเบื้องต้นพบว่าท่อน้ำมันอาจมีปัญหา หน่วยงานสหรัฐและพันธมิตรต่างประเทศ จึงตัดสินใจระงับการขึ้นบินของเอฟ35ไว้ก่อน ระหว่างให้วิศวกรทำการตรวจสอบท่อเชื้อเพลิงภายในเครื่องยนต์เครื่องบินรบรุ่นนี้ทุกลำ
โฆษกโครงการเอฟ-35 กล่าวว่า ท่อเชื้อเพลิงจะถูกถอดออกและเปลี่ยนใหม่ เมื่อติดตั้งแล้วก็จะกลับมาอยู่ในสถานะปฏิบัติการได้อีกครั้ง
คาดว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จภายใน 24-48 ชม.
จากข้อมูลกระทรวงกลาโหม พบว่า สหรัฐส่งมอบเครื่องบิน เอฟ-35 ทุกรุ่นทั่วโลกแล้ว 320 ลำ ส่วนใหญ่ส่งมอบกองทัพสหรัฐเอง นอกจากนี้ที่รับไปแล้ว อาทิ อิสราเอลและอังกฤษ
อังกฤษระบุว่ามาตรการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ไม่ได้กระทบฝูงบินเอฟ-35 ของตนทุกลำ ในส่วนของเอฟ 35 จากเรือบรรทุกเครื่องบิน เอชเอ็มเอส ควีน เอลิซาเบท ยังทดลองบินต่อไปตามโครงการเพิ่มศักยภาพกองทัพ ส่วนกองทัพอิสราเอลระบุว่าจะเพิ่มความระมัดระวังและตรวจสอบ เอฟ-35I เครื่องบินขับไล่เอฟ-35 รุ่นที่อิสราเอลใช้ แต่หากจำเป็นต้องนำมาใช้ปฏิบัติการ ก็มีความพร้อม
เครื่องบินรบ เอฟ-35 ของนาวิกโยธินสหรัฐ ประสบเหตุในเซาท์คาโรไลนา เมื่อ 28 กันยายน แต่นักบินดีดตัวออกมาได้ปลอดภัย เหตุเกิดเพียงหนึ่งวันหลังจากกองทัพสหรัฐ เพิ่งใช้เอฟ-35 ในสมรภูมิจริงครั้้งแรกโดยส่งไปถล่มเป้าหมายตาลีบันในอัฟกานิสถาน
โครงการสร้างและผลิตเครื่องบินขับไล่สุดล้ำเริ่มมาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 ได้ชื่อว่าเป็นโครงการอาวุธแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยต้นทุน 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งเป้าผลิต 2,500 ลำ หากรวมค่าบริการและบำรุงรักษาตลอดอายุใช้งานถึงปี 2070 แล้ว ต้นทุนโครงการนี้โดยรวมคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง