ศาลปาเลาอนุญาตให้หนึ่งในทายาทมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งยักษ์ใหญ่ขนส่ง DHL ที่ต้องคดีขนยาเข้าประเทศเดินทางออกจากเกาะไปบำบัดยาเสพติดได้ โดยยกเหตุผลเรื่องฐานะ
แลร์รี ฮิลบรูม จูเนียร์ ทายาทของหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งดีเอชแอล ที่ต้องคดีขนยาเสพติดเข้าปาเลา ได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือนจำและเดินทางไปบำบัดยาเสพติดที่สหรัฐอเมริกาได้ โดยผู้พิพากษายกเหตุผลฐานะร่ำรวยของเขา เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ
ฮิลบรูม วัย 33 ปี ซึ่งถือหนังสือเดินทางสหรัฐและปาเลา เป็นบุตรชายของ แลร์รี ฮิลบรอม ผู้ก่อร่วมก่อตั้งบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่ ดีเอชแอล แต่นามสกุลสะกดต่างกัน เขาเป็นข่าวดังขณะอายุ 11 ปี ในฐานะลูกนอกสมรส 1 ใน 4 คนของมหาเศรษฐีผู้ล่วงลับ ที่ถือกำเนิดจากความสัมพันธ์กับสตรีฟิลิปปินส์ เวียดนามและปาเลา ที่ต่อมา ประสบความสำเร็จในการยื่นฟ้องแบ่งสมบัติพันล้านหลังมหาเศรษฐีรายนี้เสียชีวิตจากเครื่องบินตกนอกเกาะไซปัน ในปี 2538
ฮิลบรูม จูเนียร์ ได้รับส่วนแบ่งมรดกราว 100 ล้านดอลลาร์ แต่เขาเปิดเผยเมื่อปีที่แล้วว่า บริหารจัดการเงินผิดพลาดทำให้ทรัพย์สินเหลือน้อยมากแล้ว ปกติ เขาอาศัยในสหรัฐอเมริกา แต่ขณะไปเยือนปาเลาในปี 2559 เขาถูกจับกุมฐานจัดแจงให้ผู้หญิงสองคนลอบขนเมทแอมเฟตามีน จากกรุงมะนิลา เข้าปาเลา
ศาลตัดสินจำคุกฮิลบรูม จูเนียร์ 10 ปีแต่รอลงอาญา และปรับ 5 หมื่นดอลลาร์ เมื่อเดือนมิถุนายน อันเป็นส่วนหนึ่งของการประนอมคดี แต่ได้สร้างความไม่พอใจแก่ประธานาธิบดีทอมมี เรเมนเกเซาของปาเลา โดยพูดในตอนนั้นว่า นโยบายไม่อดกลั้นกับยาเสพติด ควรบังคับใช้กับทุกคนไม่ว่ายากดีมีจน
ระหว่างรอลงอาญา ฮิลบรูมหลบหนีไปช่วงหนึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม หลังไม่ไปตรวจสารเสพติดตามนัด ก่อนถูกตามจับกุมตัวได้ และต้องมาขึ้นศาลอีกรอบในวันอังคาร ครั้งนี้อัยการขอให้ศาลตัดสินจำคุก 30 ปี แต่ผู้พิพากษากล่าวว่า ฮิลบรูมมีปัญหาติดยา และด้วยฐานะการเงิน ทำให้เขาอยู่ในสถานะที่แสวงหาการบำบัดได้ แต่บนเกาะนี้ ไม่มีโครงการฟื้นฟู จึงอนุญาตให้ออกจากปาเลาไปรักษาตัว แต่ผู้พิพากษาจะสั่งลงโทษจำคุก 30 ปีหากเขาไม่เข้ารับการบำบัดจนจบกระบวนการ หรือไม่มาเข้ารับตรวจสารเสพติดหลังกลับมายังปาเลา
การตัดสินใจปล่อยให้บุตรชายมหาเศรษฐีไปฟื้นฟูยาเสพติด มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีเรเมนเกเซา ไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในนิวยอร์ก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง