มอสโกเตรียมส่งระบบต่อสู้อากาศยานรุ่นใหม่ให้ซีเรีย หลังจากรุ่นเก่าพลาดยิงเครื่องบินทหารรัสเซียตก แต่โทษอิสราเอลต้นเหตุ
นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย แถลงวันนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน มีคำสั่งให้เพิ่มมาตรการป้องกันทางอากาศแก่ซีเรีย หลังจากเกิดเหตุระบบป้องกันทางอากาศ S-200 ของซีเรีย ยิงเครื่องบินทหารรัสเซียตกด้วยความผิดพลาด ส่งให้ลูกเรือเสียชีวิต 15 คน
นายชอยกู กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ ทำให้เราต้องเสริมมาตรการเหมาะสม เพื่อมุ่งรักษาความปลอดภัยให้กับทหารรัสเซียในซีเรียด้วย รัสเซียจะส่งระบบป้องกันขีปนาวุธ S-300 ให้กับกองทัพซีเรียภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า พร้อมกันนี้ ในพื้นที่เหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนใกล้ซีเรีย จะมีระบบกวนสัญญาณบอกพิกัดผ่านดาวเทียม ระบบเรดาร์บนเครื่องบิน และการสื่อสารที่เครื่องบินรบใช้ในการโจมตีเป้าหมายในซีเรีย
ระบบทั้งหมดนี้ยังสามารถติดตามและระบุเครื่องบินของรัสเซียได้ด้วย
เอส-300 เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่สร้างความวิตกแก่อิสราเอลมากที่สุด เพราะสามารถจัดการเป้าหมายในระยะไกลถึง 250 ก.ม. ระบบต่อสู้อากาศยานที่ซีเรียมีอยู่ในปัจจุบัน เป็นรุ่นเก่ากว่า และไม่สามารถสกัดอิสราเอลเข้าไปโจมตีเป้าหมายในซีเรียได้
เดิม ระบบป้องกันภัยทางอากาศสุดล้ำรุ่นนี้มีกำหนดส่งมอบให้ซีเรีย ตั้งแต่ปี 2556 และทหารซีเรียก็ผ่านการอบรมการใช้แล้ว แต่รัสเซียระงับไว้ตามคำร้องขอของอิสราเอล แต่รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียระบุว่า เวลานี้สถานการณ์เปลี่ยนไป และไม่ใช่ความผิดของเรา
การเสริมระบบ เอส-300 ให้กับซีเรีย เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้เหตุเครื่องบินสอดแนม Il-20 ถูกยิงตกเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อวันที่ 17 กันยายน และรัสเซียกล่าวหาอิสราเอลว่าไม่ได้แจ้งรัสเซียล่วงหน้าว่ากำลังจะโจมตีเป้าหมายในซีเรียอยู่ และนักบินเอฟ-16 ของอิสราเอลใช้เครื่องบินรัสเซียเป็นโล่กำบัง ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียที่ตั้งใจยิงตอบโต้การบุกทางอากาศของอิสราเอล กลายเป็นการยิงเครื่องบินของรัสเซีย
ในวันเดียวกัน ทำเนียบเครมลิน ย้ำข้อกล่าวหาว่า เครื่องบินรัสเซียตกเกิดจากนักบินอิสราเอล กระทำการโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเตือนว่าเหตุการณ์นี้กระทบสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง