เม็กซิโกช็อก! ศพเหยื่ออาชญากรรมรุนแรงพุ่งล้นห้องดับจิต จนทางการของรัฐหนึ่งยัดใส่รถบรรทุกแช่เย็นหาที่จอดไปเรื่อยๆ
อาริสโตเตเลส ซานโดบัล ผู้ว่าการรัฐฮาลิสโก ทางตะวันตกของเม็กซิโก สั่งปลดผู้อำนวยการสถาบันนิติเวช และอัยการของรัฐอีกคนหนึ่งในสัปดาห์นี้ จากกรณีใช้รถบรรทุกห้องเย็นบรรทุกศพ 273 ราย หาที่จอดไปเรื่อยในเมืองกัวดาลาคารา เมืองหลวงของรัฐ เนื่องจากห้องดับจิตในเมืองใหญ่สุดอันดับสองของเม็กซิโกเต็มแล้ว ไม่มีที่เก็บศพเพิ่มอีก
ตอนแรก ทางการระบุว่า มีศพในรถบรรทุก 157 ราย แต่ให้ตัวเลขใหม่เมื่อวานนี้เป็น 273 ราย ยิ่งทำให้สังคมเม็กซิโกช็อกและไม่พอใจ
เดิม รถบรรทุกศพคันนี้จอดแช่อยู่ในโกดังแห่งหนึ่งในย่านซอมซ่อชานเมืองเป็นเวลาสองสัปดาห์ กระทั่งชาวบ้านร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นและแมลงวัน ทางการจึงได้เคลื่อนรถไปจอดบนที่ว่างแห่งหนึ่งในย่านคนยากจนไกลออกไปจากกลางเมือง เมื่อถูกชาวบ้านประท้วงอีกเมื่อวันเสาร์ จึงย้ายไปจอดในบริเวณอาคารโกดังของสำนักอัยการกลางเมือง และยังจอดอยู่จนถึงปัจจุบัน
As Mexico's drug war intensifies- authorities stored bodies in a 'mobile morgue' reports @dainabethcita for @Reuters @ReutersTV pic.twitter.com/EkF4G4VhAE
— Havovi Cooper (@HavoviCooper) September 19, 2018
สถานีโทรทัศน์แพร่ภาพการเปิดท้ายรถพ่วง เห็นถุงดำเก็บศพเรียงซ้อนกันเป็นกองพะเนิน และชายคนหนึ่งสวมรองเท้าบู้ทสีขาวเหยียบย่ำบนถุงศพ เจ้าหน้าที่กล่าวว่าศพเหล่านี้เป็นเหยื่ออาชญากรรมรุนแรง ซึ่งตามกฎหมายเม็กซิโก ไม่สามารถนำไปฌาปนกิจได้ แต่ทางการกำลังหาทางออกระยะยาว
เหยื่อฆาตกรรมในเม็กซิโกพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงไม่กี่ที่ผ่านมา ปีที่แล้ว มีสถิติฆาตกรรม 28,702 ราย ยังไม่รวมการพบหลุมฝังศพนิรนามหลักสิบ หรือหลักร้อย โดยนับจากปี 2550 พบศพในหลุมนิรนามเกือบ 4,000 ราย
อาชญากรรมรุนแรงหลายคดีเกิดในรัฐฮาลิสโก ถิ่นของแก๊งค้ายาชื่อดัง รัฐอื่นที่มีแก๊งยาเสพติดอาละวาดก็ประสบปัญหาไม่ต่างกัน ห้องดับจิตมีไม่พอรองรับเหยื่อความรุนแรง อาทิ รัฐเบลาครูซ ทางตะวันออก เกร์เรโร ทางใต้ และชิวาวา ทางเหนือ
#OJO No es 1, son 2 camiones que trasladan unos 300 cadáveres en #Jalisco ,¿Por qué no es un escándalo nacional? ¿Hemos normalizado tanto la violencia que esto también nos deja indiferentes? porque @ONU_es ni @CNDH aqui no dicen nada ? ¿Quién responde?¿que clase de pais somos? pic.twitter.com/1tQyseUA2W
— LaVozDelPueblo2(Oficial) (@LPueblo2) September 19, 2018
ข่าวที่เกี่ยวข้อง